พิษณุโลก - บ้านเรือนไม้ 2 ชั้นทรงแปดเหลี่ยม 6 มุม สถาปัตยกรรมบ้านโบราณอายุ 130 ปี นับเป็นบ้านเก่าที่คงสภาพสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในอำเภอบางระกำ ทายาทรุ่นที่ 4 รับช่วงดูแลต่อ เผยมีคนขอซื้อแล้วกว่า 10 ล้าน ยันจะไม่ขายเด็ดขาด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บ้านไม้ 2 ชั้นทรงแปดเหลี่ยม 6 มุม หลังคามุงด้วยสังกะสี อายุ 130 ปี บ้านเลขที่ 152 หมู่ 7 ต.บางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ซึ่งมีนายสณัฐ อำไพพงษ์ หรือลุงณัฐ อายุ 79 ปี ทายาทรุ่นที่ 3 ดูแลและได้เสียชีวิตไม่กี่เดือนที่ผ่านมานั้น ทำให้บ้านหลังดังกล่าวถูกปล่อยร้างกว่า 4 เดือน ล่าสุดทายาทรุ่นที่ 4 กำลังเข้ามาพัฒนาเก็บกวาดบ้านพักบนเนื้อที่ 1 ไร่เศษ
พ.อ.อ.นิธิศ ธนะชูติวีรนันท์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เข้ารับช่วงดูแลบ้านหลังนี้ต่อ ซึ่งแต่เดิมก็เปิดร้านกาแฟอยู่หน้าบ้านหลังนี้ริมถนนตัวอำเภอบางระกำ ล่าสุดคิดว่าควรเข้ามาดูแลบ้านและเปิดเป็นร้านกาแฟเพื่อหารายได้มาปรับปรุงและหล่อเลี้ยงให้บ้านหลังนี้อยู่ต่อไปได้ เพราะค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงซ่อมแซมต้องใช้เป็นจำนวนมาก ประกอบกับที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวแวะมาชมบ่อยครั้ง เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เข้ามาชมจะมีการเช็กประวัติแล้วพบว่าบ้านลักษณะนี้มีหลงเหลือเพียงหลังเดียวในประเทศไทย
โดยประวัติบ้านหลังนี้ พ่อของ “ก๋ง” เป็นชาวจีน “ก๋ง” จึงสร้างบ้านตามแบบฉบับช่างฝีมือชาวจีนกวางตุ้ง ผสมผสานบ้านดั้งเดิมของคนบางระกำที่มีใต้ถุนพื้นสูง กลายเป็นสถาปัตยกรรมโบราณอายุ 130 ปีมุงหลังคาสังกะสี “ก๋ง” ประกอบอาชีพค้าขายทุกชนิดใน อ.บางระกำ เนื่องจากอาศัยอยู่ริมแม่น้ำเป็นเส้นทางสัญจร ยุคนั้นจึงมีทั้งข้าวเปลือกและท่อนไม้ซุงล่องผ่านมา พอมีฐานะ เงินที่เก็บหอมรอมริบก็นำมาสร้างบ้านเพราะมีลูกหลานเพิ่มขึ้น
เดิมทีบ้านหลังนี้อยู่ติดริมแม่น้ำยม พอตลิ่งทรุดและน้ำท่วมขังทุกปี ก็ย้าย (เลื่อน) บ้านออกห่างจากแม่น้ำยมขยับเข้ามาบนฝั่ง ต่อมาบ้านโบราณหลังนี้ได้ส่งต่อให้นายเป้า อำไพพงษ์ บุตรชายเป็นผู้ดูแล (รุ่นที่ 2) และพักอาศัย ต่อมาบุตรชายนายเป้า คือ นายสนัฐ อำไพพงษ์ เป็นรุ่นที่ 3 ดูแลต่อ และล่าสุดตนซึ่งถือเป็นรุ่นหลานเป็นผู้ดูแลจนถึงปัจจุบัน
ปัจจุบันบ้านหลังนี้ยังคงเอกลักษณ์บ้านโบราณดั้งเดิม เคยถูกน้ำท่วมมาแล้ว แต่ไม้เก่ายังทนแดดทนฝนไม่ได้ทรุดโทรมลงไปแต่อย่างใด ไม้ก็ยังเป็นแผ่นไม้เต็ง ไม้สัก โครงประตู ลายไม้แกะสลัก หน้าต่างบานไม้ ช่องประตูทางลับต่างๆ ภายในตัวบ้านยังเก็บรักษาไว้เหมือนเดิม ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างปรับภูมิทัศน์รอบๆบ้านให้เรียบร้อยก่อนรับผู้มาเยือน
“ที่ผ่านมาเคยมีคนติดต่อขอซื้อบ้านในราคากว่า 10 ล้านบาท แต่ปฏิเสธไป และขอยืนยันว่าจะไม่ขายบ้านหลังนี้เด็ดขาด จะขอเก็บไว้ให้เป็นมรดกเหมือนเดิม” พ.อ.อ.นิธิศกล่าวในที่สุด