ราชบุรี - ผู้เสียหายที่ถูกจับละเมิดลิขสิทธิ์ นับ 10 ราย ตบเท้าเรียงแถวเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองราชบุรี หลังเสียเงินเป็นจำนวนมาก กรณีเดี่ยวกับที่มีข่าวออกไป จึงคาดน่าจะเป็นการตบทรัพย์ จึงมาแจ้งความ หวังได้เงินคืน
บ่ายวันนี้ ( 9 พ.ย.) ที่ สภ.เมืองราชบุรี นางสาวกุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี เขต 1 และ นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ ได้นำผู้ถูกจับลิขสิทธิ์ เดินทางมาแจ้งความ กับ ร.ต.อ. หญิง ศิริวรรณ ธรรมมา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี หลังถูกเจ้าหน้าที่ลิขสิทธิ์จับกุมจนเสียเงินไปจำนวนมาก
นางสาวกุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี เขต 1 และนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 เปิดเผยว่ มีชาวบ้านมาร้องเรียนขอความช่วยเหลือเรื่องคดีละเมิดลิขสิทธิ์ที่กำลังเป็นข่าว โดยวันนี้ทาง นางสาวกุลวลี ได้พาลูกบ้านมาด้วยประมาณ 10 ราย เป็นคนในพื้นที่ของเขต 1 จำนวน 9 ราย และคนในพื้นที่ เขต 3 จำนวน 1 ราย พากันมาแจ้งความวันนี้เพื่อมาดูความชัดเจนว่ามีกระบวนการล่อให้กระทำความผิดแล้วใช้ช่องโหว่กฎหมายที่จะล่อซื้อ หรือมีพฤติกรรมเดียวกับกับเด็กที่โดนเรื่องกระทงอายุ 15 ปี
จึงเดินทาง มาขอความชัดเจนของตำรวจถึงการสืบสวนสวน เพราะตัวแทนของลิขสิทธิ์เป็นคนที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ส่วนใหญ่ที่มาวันนี้จะโดนนายอภิชาต ตาลเจริญ เป็นคนเดิมในข่าวมาโดยตลอด ตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน จึงขอให้ทุกคนที่เป็นผู้เสียหายจากนายอภิชาติ ตาลเจริญ ที่กรรโชคทรัพย์ โดยอาศัยช่องว่างทางกฎหมาย มาแจ้งความและดำเนินคดีเอาผิดกลับคืนนายอภิชาต ซึ่งหวังว่านายอภิชาตจะคืนเงินให้กับทุกคนที่เสียหาย ฝากบอกผู้เสียหายที่โดนเรื่องนี้ขอให้มาแจ้งความเพื่อเป็นอุทาหรณ์ จะได้เป็นบรรทัดฐานให้กับทั่วประเทศด้วย
ส่วนนางสาวไอริณ ขอสงวนนามสกุล ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหายก็กล่าวว่า ตนเองโดนลิขสิทธิ์ 3 ชุด เป็นชุดเป็ดปากแดง ในเวลานั้นมีผู้ชาย อยู่ในร้านของตนทั้งหมด 5 คนเอาชุดลิขสิทธิ์ลงมาและถามว่าตนใช่เจ้าของร้านหรือไม่ ตนก็บอกว่าเป็นเจ้าของร้าน ทางเจ้าหน้าที่บอกว่า รู้ไหมว่าขายชุดผิดกฎหมาย ซึ่งตนก็บอกว่าไม่ทราบ แต่ที่ทราบมาคือ 3 ชุดขึ้นไปถึงจะผิด แต่ที่ร้านมี 3 ชุด ทางเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าเขาได้รับมอบอำนาจมา
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ยื่นหนังสือมอบอำนาจให้ดูแต่ตนก็ยังไม่ทันได้ดูก็ถูกนำกลับไป แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้ถ่ายรูปตนคู่กับหนังสือ และถ่ายรูปในร้านไป แล้วบอกให้ตนขึ้นรถไปซึ่ง ขณะที่อยู่บนรถเขายังไม่ได้เรียนเงินจนมาถึงโรงพัก บอกว่าต้องจ่าย 5 หมื่นบาท ซึ่งเราจ่ายจริงไปทั้งหมด 15,000 บาท แต่ถูกนำเข้าไปในห้องขังก่อน เพราะว่าไม่มีเงินประกัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ ก็บอกให้หามา 5หมื่นไม่ได้ 2 หมื่นได้ไหม ตนก็บอกว่า 2 หมื่นก็ไม่มี ซึ่งตนขายของทุกวันได้เงิน วันละ 500-600 บาท และให้ตนเซ็นต์เอกสาร แต่ตนไม่ได้เซ็นต์ จากนั้นจึงได้ให้ลงมารอที่ร้อยเวร และให้ติดต่อญาติมาประกันตัว และต่อมาก็ส่งตัวเข้าห้องขัง
หลังจากนั้นตนได้หาเงินมา 15,000 บาท เพื่อมาประกันตัว ซึ่งคดีทางเจ้าหน้าที่อ้างว่าเคลียร์เรียบร้อยแล้ว แต่ตนเองมีสำเนาที่ตนเองจ่ายเงิน 15,000 บาท ซึ่งตนเองคิดว่าเป็นการตบทรัพย์ เพราะตนได้บอกว่าถ้าไม่มีเงิน 15,000 บาท ตนขอนอนที่นี่ แล้วค่อยให้แฟนมาติดต่อในภายหลัง ทางเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าไม่ยอมจะรอ ที่วันนี้ตัดสินใจมาแจ้งความเพราะอ่านจากข่าวและตกเป็นเหยื่อแบบเดียวกันและอยากได้เงิน 15,000 บาทที่จ่ายไปด้วย เพราะว่าตอนนี้เดือดร้อนมากต้องไปกู้เงินมาจ่ายให้
