สระแก้ว - ผอ.โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ยันเมียนักโทษแหกคุกศาลจังหวัดพัทยาชาวอเมริกัน ไม่ได้ตั้งท้อง แค่อยู่ในภาวะเครียดจึงทำให้ไม่มีประจำเดือน ด้านอาการนักโทษอเมริกันเข้าขั้นโคม่า ซ้ำมีภาวะสมองตาย ม่านตาไม่ตอบสนอง ตร.ประสานญาติต่างแดนเดินทางมาดูใจแล้ว
จากเหตุการณ์ 3 คนร้าย ประกอบด้วย นายหน่อย หรือต้น นิลเทศ อายุ 40 ปี น.ส.สิรินภา วิเศษฤทธิ์ อายุ 30 ปี และนายบาร์ท อันเลน เฮลมัส อายุ 39 ปี ร่วมกันใช้มีดแทงตำรวจประจำศาลพัทยาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนใช้ปืนยิงเปิดทางวิ่งหลบหนีไปขึ้นรถกระบะที่จอดรออยู่บริเวณหน้าศาล ขับหลบหนีไปบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาเพื่อหวังหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เหตุเกิดเมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา
แต่สุดท้ายนักโทษทั้ง 3 ราย ทนแรงกดดันและการไล่ล่าของเจ้าหน้าที่ไม่ไหว สุดท้าย นายหน่อย หรือต้น นิลเทศ ขอมอบตัวพร้อมเมีย และญาติอีกรายที่พาหลบหนี ส่วนนายบาร์ท อันเลน เฮลมัส ตัดสินใจใช้อาวุธปืนจ่อยิง น.ส.สิรินภา วิเศษฤทธิ์ อายุ 30 ปีซึ่งเป็นภรรยาและตนเองจนได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อช่วงบ่ายวานนี้นั้น
วันนี้ (7 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ติดตามอาการบาดเจ็บของนายบาร์ท อันเลน เฮลมัส และ น.ส.สิรินภา วิเศษฤทธิ์ ที่ถูกย้ายมารักษาตัวในห้องไอซียู โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ล่าสุด นายแพทย์ภูวดล กิตติวัฒนาสาร ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ได้ออกมาเปิดเผยถึงอาการล่าสุดของนักโทษชาวอเมริกันว่ายังอยู่ในขั้นโคม่า ภาวะสมองตายและม่านตาไม่ตอบสนอง โดยต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ตลอดเวลา
ส่วน น.ส.สิรินภา วิเศษฤทธิ์ ได้รับการผ่าตัดเพื่อนำเลือดที่คั่งในสมองออกแล้วเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา และขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว แต่ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายด้วยเช่นกัน โดยคาดว่าไม่นานนี้ก็น่าจะถอดออกได้
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ยังยืนยันว่า จากการตรวจร่างกาย น.ส.สิรินภา อย่างละเอียดพบว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ 3 เดือนตามที่เป็นข่าว แต่เนื่องจากนักโทษหญิงรายนี้อยู่ในความเครียดจึงทำให้ไม่มีประจำเดือนหลายเดือน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุที่นักโทษชาวอเมริกันใช้อาวุธปืนยิงตัวเองนั้น ผู้ต้องหาหญิงได้ให้ข้อมูลกับแพทย์ว่า สามีได้ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองจากทางด้านขวาเพียงนัดเดียวแต่กระสุนทะลุมาโดนที่ศีรษะของตนเองจึงทำให้เกิดบาดแผลไม่ลึก จึงทำให้แพทย์สามารถผ่าตัดนำหัวกระสุนออกได้
ด้าน พ.ต.อ.ภิรมย์ จันทราภิรมย์ ผู้กำกับการ สภ.เมืองสระแก้ว เผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจวางกำลังดูแลความปลอดภัยผู้ต้องหาทั้ง 2 รายอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นผู้ต้องหาในคดีสำคัญและได้มีการจัดกำลังตำรวจดูแลภายในห้องไอซียู จำนวน 2 นายอยู่ตลอดเวลา ส่วนอีก 2 นายคอยดูแลความปลอดภัยอยู่โดยรอบโรงพยาบาล และจะมีการผลัดเปลี่ยนกำลังทุก 8 ชั่วโมง จนกว่าจะมีการส่งตัวผู้ต้องหาเสร็จสิ้น
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังจากที่อาการของนักโทษชายชาวอเมริกันทรุดลงเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานงานไปยังสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เพื่อขอให้ช่วยติดต่อครอบครัวนักโทษชายคนดังกล่าวเพื่อให้เดินทางมาดูอาการตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวานนี้แล้วเช่นกัน