แพร่ - ญาติพี่น้องวอนปิกอัพปริศนาพบตำรวจ..หลังชน จยย.แล้วหนี พนักงานสวนป่าเด่นชัยดับ เด็ก 2 คนที่เสียแม่เมื่อ 12 ปีก่อน ต้องกำพร้าไร้คนดูแลทันที แถมเบิกค่าปลงศพ-เงินเยียวยาไม่ได้ พบกล้องวงจรปิดเสียหมดทุกตัวซ้ำ
ความคืบหน้ากรณีอุบัติเหตุรถกระบะปริศนาชนรถจักยานยนต์ ก่อนมีรถเก๋งอีก 2 คันชนซ้ำ บริเวณทางแยกแม่จั๊วะ-เด่นชัย (สายคลองชลประทาน) ตัดกับทางเข้าตัว อ.เด่นชัย จ.แพร่ ทำให้นายถนอม ชัยวงค์แสน อายุ 45 ปี พนักงาน อ.อ.ป.สวนป่าเด่นชัย ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บสาหัสเสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเด่นชัยเมื่อ 20.00 น.เศษ วันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ถนนสายดังกล่าวเป็นถนนสี่ช่องทางจราจร-ไม่มีเกาะกลาง ขณะเกิดเหตุไฟกิ่งให้แสงสว่างถนนดับตลอดสาย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญทำให้เกิดอุบัติเหตุซ้อน อีกทั้งรถคู่กรณี 2 คันแรกชนแล้วหนี ส่วนคันที่ 3 ไม่หลบหนีด้วยสภาพยางหน้าขวาแตกนั้น
ล่าสุดนางป้อม แมตสอง อายุ 70 ปี และนางอรทัย ชัยวงค์แสน อายุ 51 ปี พี่สาวของนายถนอม ได้เดินทางไปประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามหาคู่กรณีการทำใบมรณบัตร และหลักฐานต่างๆ เพื่อหาทางช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวที่เหลืออยู่
ร.ต.อ.ก้องนภา วงศ์ชัย พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวกับญาติที่เข้ามาติดต่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการยากมากที่จะติดตามตัวคู่กรณีเข้ามารับผิดชอบในการสูญเสียครั้งนี้ เนื่องจากสภาพถนนมืดทำให้ผู้เห็นเหตุการณ์ไม่สามารถทราบรายละเอียดของรถที่ชนได้ อีกทั้งกล้องวงจรปิดบริเวณสามแยกดังกล่าวทั้งของราชการและเอกชนมีอยู่ราว 4 ตัว แต่ใช้งานไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะติดตามคู่กรณีมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด คาดว่าอย่างน้อยคงต้องใช้เวลาประมาณ 2 เดือน
สำหรับร่างของนายถนอม ขณะนี้ญาติได้นำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดเวียงตั้ง ท่ามกลางญาติพี่น้องที่คิดไม่ถึงเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์กับนายถนอมที่เป็นหัวหน้าครอบครัวต้องดูแลมารดาของภรรยาอายุ 70 ปี และลูกอีก 2 คน ส่วนภรรยาคือนางบาน ต่างใจ เสียชีวิตไปเมื่อ 12 ปีที่ผ่านมาด้วยอุบัติเหตุเช่นกัน
นางสาวเกศรินทร์ ชมเชย อายุ 34 ปี ญาติที่ทำงานอยู่ที่ กทม.เมื่อทราบข่าวได้เดินทางมาช่วยลูกสาวผู้เสียชีวิตสองคนเพราะยังเป็นเด็กอยู่ กล่าวว่า ครอบครัวนี้น่าสงสารมาก ไม่คิดว่าหัวหน้าครอบครัวคือนายถนอมจะมาเสียชีวิต เพราะก่อนหน้านี้นางบาน ภรรยานายถนอมก็เสียชีวิตไปด้วยอุบัติเหตุเช่นกันเมื่อ 12 ปีมาแล้ว
เมื่อคู่กรณีหลบหนีปัญหาอื่นๆ ในการช่วยเหลือก็จะตามมา เช่น การชดใช้ชดเชย การจัดงานศพ รวมไปถึงการเยียวยา โดยเฉพาะเด็กสองคนใครจะดูแลเมื่อพ่อและแม่ของเขาเสียชีวิตหมดแล้ว อยากให้คู่กรณีเห็นใจเข้ามาพบพนักงานสอบสวนถือว่าเป็นการช่วยเหลือกัน แต่ถ้าจะหนีลองคิดว่าถ้าสถานการณ์นี้เป็นลูกเป็นเมียของตัวเองบ้างจะรู้สึกอย่างไร
“อุบัติเหตุครั้งนี้นอกจากความประมาทแล้ว ยังมีเรื่องของถนนกว้างรถใช้ความเร็วสูง ซึ่งควรมีสัญญาณจราจรและไฟส่องสว่างให้เพียงพอ ยิ่งกำลังเข้าเทศกาลลอยกระทงอุบัติเหตุเช่นนี้จะเกิดอีกมาก ถ้าทางราชการยังไม่ให้ความสำคัญในการแก้ไขระบบไฟแสงสว่างและสัญญาณจราจร”
นายสงวน ธงยี่สิบสอง นายก อบต.วังธง ที่ได้เข้ามาอำนวยความสะดวกช่วยเหลือในงานศพ กล่าวว่าครอบครัวนี้น่าสงสารมาก สองพี่น้องไม่มีแม่ อยู่กับพ่อและยาย แต่ตอนนี้เสียพ่อไปอีกต้องอยู่กับยายอายุ 70 ปี สาเหตุมาจากอุบัติเหตุ เด็ก 2 คนที่ไม่ค่อยมีเงินอยู่แล้วต้องออกมาเรียน กศน. การศึกษาก็ยังไม่จบ คนหาเงินก็ไม่มี จึงอยากวิงวอนคู่กรณีที่เป็นต้นเหตุให้เกิดความสูญเสียเห็นแก่มนุษยธรรมมาดูแลครอบครัวนี้บ้าง เพื่อเป็นการเยียวยา บรรเทาความเดือดร้อนที่กำลังเกิดขึ้น
ส่วนการช่วยเหลือเฉพาะหน้า เนื่องจากไม่มีคู่กรณีทำให้การจ่ายเงินประกันอุบัติเหตุมีปัญหา ทาง อบต.วงธงจะเป็นธุระในการประสานงานกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพเพื่อขอใช้สิทธิ์ในการปลงศพ หรือ พ.ร.บ.ประกันภัยภาคบังคับ เพื่อหาเงินมาช่วยเด็กสองคนในการทำศพของบิดาต่อไป