เชียงราย - ฉก.นรสิงห์ พร้อมเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ซุ่มจับหนุ่มอ้างเป็นหลานบิ๊กป้อม-นามสกุลเดียวกัน ปล่อยกู้ข่มขู่รีดดอกเบี้ยโหดคาบ้านลูกหนี้
ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง จ.เชียงราย (ฉก.นรสิงห์), เจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) จ.เชียงราย ได้จับกุมตัวนายจีรสิน วงษ์สุวรรณ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 468/323 หมู่ 3 ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา
พร้อมของกลางเอกสารสัญญาเงินกู้ 31 ชุด, ธนบัตรเงินสดฉบับละ 500 บาท 100 บาท และฉบับละ 20 บาท รวมทั้งหมด 2,080 บาท, บัตรเอทีเอ็ม 2 ใบ, โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง, รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน, นามบัตร "เพชรคนเมืองเงินกู้" 3 แผ่นใหญ่, วัตถุคล้ายทองคำ (สร้อยคอ) พระเลี่ยมวัตถุคล้ายทองหนัก 5 บาท จำนวน 1 เส้น, ใบฝากเงินธนาคาร 1 ฉบับ, สำเนาภาพถ่ายการสนทนาระหว่างนายจีรสินกับผู้กู้ยืมเงิน 1 ฉบับ หลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร 42 ฉบับ และสมุดบัญชีรายรับ-จ่าย ของลูกหนี้ 1 เล่ม
การจับกุมมีขึ้นหลังมีผู้ร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมฯ ว่ามีคนออกเงินกู้นอกระบบเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา รวมทั้งมีพฤติกรรมข่มขู่ในเขต อ.เมืองเชียงราย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้วางกำลังดักซุ่มเอาไว้บริเวณจุดที่ชาวบ้านแจ้ง กระทั่งพบนายจีรสินขับขี่รถจักรยานยนต์ไปเก็บเงินลูกหนี้หญิงอายุ 57 ปี ชาวบ้านหมู่ 5 ต.สันทราย อ.เมืองเชียงราย จึงเข้าไปตรวจสอบพบสัญญาเงินกู้กับผู้กู้รายดังกล่าว 1 ชุด จึงจับกุมตัวนายจีรสินเอาไว้
เบื้องต้นนายจีรสินให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้เรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดจริง กรณีหญิงวัย 57 ปีดังกล่าว ปล่อยเงินกู้เมื่อ 2 ก.ค. 62 เงินต้น 5,000 บาท มีผู้ลงชื่อเป็นพยาน 1 คน หักค่าดอกเบี้ยต้นไปก่อน 500 บาท เหลือรับเงินจริงเพียง 4,500 บาท จากนั้นก็เก็บดอกเบี้ยทุกวัน วันละ 100 บาท มาเป็นเวลา 4 เดือน โดยใช้วิธีทั้งทวงถึงตัว โทรศัพท์ทวง ไลน์ทวง ให้โอนเข้าบัญชีธนาคารชื่อของนายจีรสินโดยตรง
กระทั่งวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมานายจีรสินได้โทรศัพท์ทวงถามพร้อมข่มขู่ให้จ่ายเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยทั้งหมด 6,000 บาทให้ในคราวเดียวไม่เช่นนั้นจะทำร้าย แต่ครั้งนี้เข้าไปทวงที่บ้านแล้วถูกเจ้าหน้าที่เข้าไปจับกุมได้เสียก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงที่เจ้าหน้าที่จับกุมนั้นนายจีรสินอ้างว่ามีศักดิ์เป็นหลานของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และยังท้าทายให้เจ้าหน้าที่ดูบัตรประจำตัวประชาชนที่มีนามสกุลของตนก่อนจะจับกุมด้วย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีการร้องเรียนและพบการกระทำผิดซึ่งหน้า ทำให้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวและนำไปขยายผลที่บ้านพักที่ ต.บ้านดู่ ก็พบของกลางเพิ่มเติมหลายรายการ โดยเฉพาะเอกสารสัญญาเงินกู้กับผู้กู้อีกหลายราย
จากนั้นจึงนำตัวพร้อมของกลางส่งกองอาสารักษาดินแดน (อส.) เชียงราย ที่ 1 เพื่อบันทึกการจับกุมและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย ดำเนินคดีตามกฎหมายใน 2 ข้อหา คือ เรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เกินอัตรา มาตรา 4 (1) และข้อหาประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับของกระทรวงการคลังเป็นทางการค้าปกติโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายตามประกาศกระทรวงการคลังเรื่องกิจการที่ต้องขออนุญาตตามข้อ 5 แห่งประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 58 โดยลักษณะการจับกุมดำเนินการโดยไม่มีหมายจับเนื่องจากได้กระทำความผิดซึ่งหน้าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 80