แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว - ทางการลาวดีเดย์วันนี้ เดินหน้าฟื้นฟู “เมืองเก่าสุวรรณโคมคำ” อาณาจักรโบราณริมฝั่งโขงก่อนยุคโยนกนคร-หิรัญนครเงินยาง เชียงแสน ขณะที่ทุนจีนเดินหน้าพลิกโฉมเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมทองคำต่อเนื่อง
วันนี้ (3 พ.ย.) แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว จะเริ่มการปฏิสังขรณ์พระพุทธรูปองค์ใหญ่ ในเขตเมืองเก่าสุวรรณโคมคำ และก่อสร้างวิหารครอบองค์พระ ซึ่งเป็นขั้นตอนแรกของแผนพัฒนาเมืองเก่าสุวรรณโคมคำ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมในเขตภาคเหนือของลาว
เมืองเก่าสุวรรณโคมคำอยู่ในกลุ่มบ้านดอนทาด เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว ทางการลาวสันนิษฐานว่าพื้นที่นี้ เป็นที่ตั้งของอาณาจักรสุวรรณโคมคำ อาณาจักรโบราณในช่วงพุทธศตวรรษที่ 11 ก่อนยุคอาณาจักรโยนกนาคนคร และอาณาจักรหิรัญนครเงินยาง เชียงแสน
ตามตำนานระบุว่า อาณาจักรสุวรรณโคมคำได้ล่มสลายไปเนื่องจากแม่น้ำโขงเปลี่ยนทิศ
เขตเมืองเก่าสุวรรณโคมคำตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เป็นจุดตะวันตกสุดของ สปป.ลาว ห่างจากเมืองห้วยทรายประมาณ 40 กิโลเมตรทางบก และ 60 กิโลเมตรทางน้ำ
องค์พระใหญ่ที่กำลังจะปฏิสังขรณ์เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางสมาธิ หน้าตักกว้าง 7.10 เมตร สูง 7.22 เมตร บ่าแต่ละข้างขององค์พระมีขนาด 1.10 เมตร ด้านข้างตั้งแต่สะโพกถึงหัวเข่ากว้าง 3.60 เมตร ด้วยขนาดขององค์พระ ทำให้มีการสันนิษฐานว่าต้องเป็นพระพุทธรูปประจำพระราชวัง
นอกจากองค์พระพุทธรูปแล้ว ในเขตเมืองเก่าสุวรรณโคมคำยังพบร่องน้ำที่สันนิษฐานว่าเป็นแนวแม่น้ำโขงเดิม มีลักษณะเป็นบึงโค้ง ยาวประมาณ 3 กิโลเมตร คนท้องถิ่นเรียกว่าหนองวังคำ และพบโบราณสถานซึ่งสร้างจากปูนและดินเผาอีก 44 แห่ง ซึ่งคาดว่าเป็นโบสถ์ พระธาตุ พระพุทธรูป ฯลฯ
เมื่อวานนี้ (2 พ.ย.) ประชาชนจากบ้านร่มเย็น บ้านดอนทาด บ้านดอนสะหวัน และเจ้าหน้าที่จากแผนกแถลงข่าว วัฒนธรรม และท่องเที่ยว เมืองต้นผึ้ง ได้ไปร่วมกันจัดเตรียมพื้นที่เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา ก่อนเริ่มต้นการปฏิสังขรณ์องค์พระ
ขณะที่เหนือพื้นที่อาณาจักรสุวรรณโคมคำขึ้นไปไม่ไกลนัก ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นพื้นที่ติดๆ กันนั้น กลุ่มทุนจีน “ดอกงิ้วคำ” ที่ได้รับสัมปทานพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำจาก สปป.ลาว ดำเนินโครงการ Kings Romans of LAOS Asian Economic & Tourism Development Zone มาเมื่อปี 2550 และเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2552 ปรับปรุงสัญญาขยายพื้นที่สัมปทานขึ้นเป็น 2,173 เฮกตาร์ (13,581 ไร่) และปรับรูปแบบโครงการเป็นการสร้างเมืองใหม่ขึ้นมาอีก 1 แห่ง กำลังเร่งพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำได้รับพื้นที่สัมปทานจากรัฐบาลลาวรวม 10,000 เฮกตาร์ (6.25 หมื่นไร่) นอกจากพื้นที่เขตพัฒนาตัวเมืองประมาณ 3,000 เฮกตาร์แล้ว ยังรวมป่าสงวนสายพูกิ่วลมเข้าไปด้วยอีก 7,000 เฮกตาร์
ล่าสุดผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Kone Saenekhamleu ได้โพสต์ภาพในเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/Allaboutbokeo/ แสดงภาพพื้นที่กาสิโนในเขตเศรษฐกิจพิเศษดังกล่าว ซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้าง จนทำให้ผู้คนพากันแปลกใจไปตามๆ กัน และไม่แน่ใจว่า..ที่นี่จีนหรือลาวกันแน่!?