ศูนย์ข่าวเชียงใหม่-ตร.คุมตัว"ไอ้เอ็ม"ทำแผนฆ่าโหดเศรษฐินีตั้งแต่เช้าตรู่ที่บ้านเกิดเหตุของผู้ตาย อย่างละเอียดและขอขมาวิญญาณที่จุดสังหาร ท่ามกลางเสียงสาปแช่งของชาวบ้าน เผยจากนี้อาจจะต้องแจ้งข้อหาบางคนเนื่องจากพบว่ามีส่วนร่วมกระทำผิด
ช่วงเช้าวันนี้(2พ.ย.)เวลาประมาณ 07.00 น. พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และพ.ต.อ. ดำเนิน กันอ่อง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรจอมทอง นำเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายวิฑูรย์ ศรีตะบุตร์ หรือ เอ็ม อายุ39ปี ชาวจังหวัดลำปาง ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุฆ่านางสาววรรณี จิรเจริญยิ่ง อายุ58ปี เศรษฐินีนักปฏิบัติธรรมลูกศิษย์วัดพระธาตุศรีจอมทอง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านเลขที่90/3 หมู่3 ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านของผู้ตายและเป็นจุดเกิดเหตุ ท่ามกลางชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงประมาณ200คน ที่ต่างพากันมารอดูหน้านายวิฑูรย์และต่างพากันสาปแช่งนายวิฑูรย์ที่ก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งเมื่อนายวิฑูรย์ ถูกนำตัวมาถึงโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่อาสาประมาณ 50 นาย ช่วยคุ้มกัน ชาวบ้านต่างพากันโห่ร้อง แต่ไม่มีเหตุการณ์บานปลายใดๆ ตลอดช่วงทำแผน
สำหรับการทำแผนประกอบคำรับสารภาพในครั้งนี้นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้นายวิฑูรย์ แสดงขั้นตอนการลงมือก่อเหตุอย่างละเอียดตามจุดต่างๆ ในบ้าน ตั้งแต่เริ่มเข้าบ้านผู้ตาย,การลงมือทำร้ายและฆ่าผู้ตาย รวมทั้งการอำพรางศพ และการรื้อค้นทรัพย์สิน ตามคำรับสารภาพที่ว่าลงมือช่วงเช้าวันที่ 11 ต.ค.62 โดยทำทีไปเคาะบ้านเรียกผู้ตาย จนกระทั่งผู้ตายเปิดประตูแง้มออกมาดูด้วยความที่เห็นว่าเป็นคนคุ้นเคยกัน จากนั้นจึงสบโอกาสลงมือทำร้าย พร้อมมัดมือเท้า บังคับเอาบัตรเอทีเอ็มและรหัส ซึ่งเมื่อได้แล้วจึงนำไปทดลองกดเงินว่าได้หรือไม่
เมื่อได้แล้วจึงกลับมาลงมือฆ่าผู้ตาย ก่อนที่วันที่ 13 ต.ค.62 จะย้อนกลับมาจัดการอำพรางศพด้วยการยัดศพลงไปในตู้เย็นที่เสียบปลั๊กไว้และโรยปูนซีเมนต์ทับ แล้วหลบหนี โดยหลังจากนั้นได้นำบัตรเอทีเอ็มของผู้ตายไปตระเวนกดเงินสดได้ไปรวมทั้งสิ้นประมาณ 1.7 ล้านบาท ทั้งนี้ในระหว่างที่ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ นายวิฑูรย์ ได้ขออนุญาตทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกราบขอขมาวิญญาณผู้ตายตรงจุดที่ก่อเหตุและอำพรางศพบริเวณชั้นล่างของบ้านด้วย ซึ่งใช้เวลาในการทำแผนประมาณ1ชั่วโมง จากนั้นคุมตัวไปดำเนินคดีและส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดฮอด ต่อไป
พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า การนำตัวนายวิฑูรย์ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุบ้านของผู้ตายครั้งนิ้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้นายวิฑูรย์ ทำแผนอย่างละเอียดเริ่มตั้งแต่การเข้าไปในบ้าน,การลงมือทำร้ายและฆ่าผู้ตาย รวมทั้งการอำพรางศพ และการรื้อค้นทรัพย์สิน ตลอดจนการเข้าออกบ้านหลังจากที่ฆ่าผู้ตายไปแล้วและย้อนกลับมา ทั้งนี้ในช่วงทำแผนนายวิฑูรย์ ได้ขออนุญาตกราบขอขมาวิญญาณผู้ตายตรงจุดที่ก่อเหตุและอำพรางศพบริเวณชั้นล่างของบ้านด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็อนุญาต ก่อนที่จะเสร็จสิ้นการทำแผน และเตรียมนำตัวส่งฝากขังที่ศาลต่อไป โดยจากการทำงานอย่างหนักของเจ้าหน้าที่ตำรวจจนสามารถคลี่คลายคดีและจับกุมตัวคนร้ายได้ เชื่อว่าน่าจะเป็นที่พอใจของญาติผู้ตาย เพราะที่ผ่านมามีการแจ้งความคืบหน้าให้ทราบตลอด ส่วนทรัพย์สินของผู้ตายที่เหลือนั้น จะช่วยเร่งติดตามคืนให้ได้มากที่สุดและโดยเร็วที่สุด
เบื้องต้นมีการดำเนินคดีกับนายวิฑูรย์ทั้งหมด 5ข้อหา โดยข้อหาที่ร้ายแรงที่สุดคือ ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยการทรมาน ที่มีโทษถึงประหารชีวิต ซึ่งคดีนี้จากการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่าเพียงคนเดียว อย่างไรก็ตามในช่วงหลังจากนั้นพบว่าอาจจะมีบางคนที่เข้ามามีส่วนร่วมในการกระทำความผิดอื่นๆ ด้วย ซึ่งต้องพิจารณาว่าอาจจะต้องมีการแจ้งข้อหาบางคนหรือว่าจะกันตัวเป็นพยาน
การขยายผลในส่วนของผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ โดยเฉพาะประเด็นรับฝากรถ และนำรถของกลางไปซุกซ่อนนั้นหากสืบสวนพบมีพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับขบวนการรับของโจร หรือขบวนการรถเถื่อนหรือจารกรรมรถนั้น อาจะต้องถูกดำเนินคดีเพิ่มเติม ส่วนภรรยาของนายวิฑูรย์ ที่มีการรับสารภาพว่านายวิฑูรย์นำเงิน และทรัพย์สินมาให้อาจจะต้องติดตามคืนกลับมาให้ได้มากที่สุด และนางสาวน้ำแฟนสาวจากการสอบสวนเจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้เงินหรือทรัพย์สินมีค่าใดจากนายเอ็ม ทั้งสองคนก็อาจจะไม่ถูกดำเนินคดี
ขณะที่พ.ต.อ. ดำเนิน กันอ่อง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรจอมทอง กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอย่างเต็มที่เพื่อคลี่คลายคดีและเร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายจนสำเร็จ ซึ่งทางญาติได้รับการแจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับการทำงานของตำรวจอยู่ตลอดเป็นระยะ และเชื่อว่าน่าจะพึงพอใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนทรัพย์สินต่างๆ ของผู้ตายที่ยังได้คืนมาไม่ครบนั้น จากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสืบสวนติดตามมาคืนให้กับทางญาติผู้ตายให้ได้โดยเร็วและมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทั้งจากส่วนที่นายวิฑูรย์ นำไปให้อดีตภรรยาและลูก,นำไปเช่าคอนโดมิเนียม และซื้อทรัพย์สินต่างๆ โดยในส่วนของ “นางสาวน้ำ” หญิงสาวที่ไปเที่ยวระยองกับนายวิฑูรย์ ด้วยนั้น จากการสอบปากคำยืนยันว่าไม่ได้รับเงินหรือทรัพย์สินใดๆ จากนายวิฑูรย์ นอกจากการพาไปกินเที่ยวเท่านั้น