อุดรธานี - ตาและยายของนายเมธี ชิณภา หรือ “บอส” ผัวเด็กแม่มณีเผยทั้งน้ำตาไม่รู้เรื่องแชร์ ยังหาเช้ากินค่ำไปวันๆ ส่วนบอสไม่เรียนต่อเพราะที่บ้านจนต้องเล่นดนตรีร้องเพลงเลี้ยงตัวจนเจอกับนางสาวเดียร์ สงสารหลานชายถูกออกหมายจับ วอนมอบตัวสู้คดี
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังชุมชนมั่นคง เขตเทศบาลนครอุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านของนางทับทิม (สงวนนามสกุล) แม่ของนายเมธี ชิณภา หรือ บอส อายุ 20 ปี สามีเด็กของ น.ส.วันทนีย์ หรือ เดียร์ ทิพย์ประเวช อายุ 30 ปี เจ้าของวงแชร์ออมเงิน-ออมทองแม่มณี ที่มีผู้เสียหายแจ้งความทั่วประเทศ และขณะนี้ทั้งคู่หลบหนีหมายจับ ตำรวจยังสืบไม่ได้ว่าอยู่แห่งหนตำบลใดหรือว่าหนีออกนอกประเทศไปแล้ว
อย่างไรก็ตามนางทับทิมไม่อยู่บ้าน จึงได้พบและพูดคุยกับนายทองเลื่อน (สงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี และภรรยา ซึ่งเป็นพ่อแม่ของนางทับทิม หรือตายายของนายบอส ทั้งคู่มีสีหน้าดูวิตกกังวล ขอร้องไม่ให้ผู้สื่อข่าวถ่ายภาพและระหว่างที่พูดคุยบางช่วงมีน้ำตาเอ่อ
นายทองเลื่อน อายุ 64 ปี และภรรยา เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า รู้เรื่องหลานชายคือนายบอสเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เองจากข่าวที่ถูกนำเสนอทีวีทุกช่องทั้งวันทั้งคืน รู้สึกเป็นห่วงหลานชายมาก ตากับยายไม่รู้รายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น รู้แต่ว่าหลานชายถูกออกหมายจับ ติดต่อสอบถามก็ไม่ได้ อยากจะให้หลานติดต่อกลับมา หรือมอบตัวต่อตำรวจ มาสู้คดีหรือรับโทษตามกฎหมาย ตายาย พ่อแม่จะสบายใจมากขึ้น
นายทองเลื่อนบอกว่ารักและห่วงหลานชายมาก ที่ผ่านมาเขาไม่เคยสร้างปัญหา เรียนจบมัธยมประจำจังหวัด ฐานะทางครอบครัวยากจน เขาก็ไม่ได้เรียนต่อ แต่หลานชายมีความสามารถทางดนตรี เล่นและร้องเพลงเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด จะไปอยู่กินกับ น.ส.เดียร์ ทำงานพริตตี้-พีอาร์ ออกไปอยู่นอนบ้าน กลับมาเยี่ยมตายาย และแม่บ้าง เคยเอาเงินมาให้ตายาย 1 พันบาท แต่หลังจากไปอยู่กับ น.ส.เดียร์มีเงินมีทองแล้ว ก็ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมบ่อยเหมือนเดิม
สองตายายเล่าอีกว่า ตายายอายุมากขนาดนี้ยังต้องทำงานหาเช้ากินค่ำ ตาเป็นสารถีสามล้อสกายแล็บ หาอยู่หากินตามประสาคนจน ยายก็เป็นลูกจ้างตามบ้าน แล้วแต่ใครจะจ้าง
ส่วนนางทับทิม แม่ของบอส ก็เป็นแม่บ้านโรงแรม มีภาระเลี้ยงลูกคนเล็กอีกคนที่เป็นเด็กพิเศษ มีค่าใช้จ่ายเดือนละอย่างน้อย 4-5 พันบาท
“ครอบครัวของตาไม่มีส่วนได้เสีย หรือรับผลประโยชน์จากแชร์ที่นางเดียร์มันทำ แต่ตอนนี้ครอบครัวเรากำลังเดือดร้อน วันๆ ไม่ต้องทำอะไร เดี่ยวตำรวจก็มาหามาถาม เดี่ยวนักข่าวก็มาซักมาสัมภาษณ์ ชาวบ้านและสังคมก็มองจ้องมาที่พวกเรา จนตอนนี้ลูกสาวจะไม่ไปที่ทำงานแล้ว” นายทองเลื่อนระบายความในใจ