กาญจนบุรี - พ่อเมืองกาญจน์ลงพื้นที่ทองผาภูมิ สำรวจน้ำท้ายเขื่อน เผยท่าน้ำทองผาภูมิเอ่อล้นเป็นเรื่องปกติ ยันพื้นที่ จ.กาญจน์ ยังไม่วิกฤต เหตุตัวชี้วัดคือเขื่อนแม่กลองยังระบายน้ำปกติ
วันนี้ (4 ส.ค.) นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วย นางรชยา ภูมิสวัสดิ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี และนายอารุณ ปินตา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี เดินทางไปที่สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ ร.9 (ท่าน้ำเทศบาล) หมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เพื่อสำรวจปริมาณเอ่อล้นของน้ำจากแม่น้ำแควน้อย โดยมี นายประเทศ บุญยงค์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลทองผาภูมิ ให้การต้อนรับ และนำพาสำรวจ
นายจีระเกียรติ กล่าวว่า จากการได้ตรวจสอบดูปริมาณน้ำจากแม่น้ำแควน้อยทั้งสาย คาดว่ายังอยู่ในสภาวะไม่ถึงกับเข้าขั้นวิกฤต แต่อาจจะมีปริมาณของน้ำมาก เพราะทางเขื่อนได้ระบายน้ำเพิ่มขึ้น
ส่วนบริเวณท่าน้ำเทศบาลทองผาภูมิ ที่เรามองเห็นว่าน้ำเอ่อล้นนั้นก็เป็นเรื่องปกติเพราะอีกเพียงแค่ 3-4 กิโลเมตร ก็จะถึงปากประตูระบายน้ำของเขื่อนแล้ว จึงถือว่าเป็นเรื่องปกติเมื่อยามเขื่อนระบายน้ำออกมา แต่จากการไล่ดูเส้นทางของน้ำ พบว่า ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าตลิ่ง
ปัจจุบัน พื้นที่จังหวัดกาญจนบุรียังไม่ถึงกับเข้าขั้นวิกฤต หากมีภาวะวิกฤตก็จะมีคณะบริหารจัดการน้ำแจ้งเข้ามาที่จังหวัดล่วงหน้า เพื่อที่จะได้แจ้งเตือนให้พี่น้องประชาชนทราบ ซึ่งการแจ้งเป็นการแจ้งเพื่อระบายน้ำเท่านั้น แต่หากเข้าขั้นวิกฤต คงจะแจ้งเข้ามาในอีกลักษณะหนึ่ง
ที่ผ่านมา จังหวัดกาญจนบุรีได้ประสานกับทาง กฟผ.อยู่ตลอดเวลา ปัจจุบันปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ มีอยู่ประมาณ 84% ของความจุ มีปริมาณน้ำไหลเข้าเฉลี่ยวันละประมาณ 80 ล้าน ลบ.ม.ส่วนทางเขื่อนก็ได้มีนโยบายระบายน้ำเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 2-3 วันข้างหน้าก็จะมีการระบายเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละประมาณ 40 ล้าน ลบ.ม.ทำให้น้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้นช้าลง คาดว่าอ่างเก็บน้ำจะต้องใช้เวลาอีกประมาณ 1 เดือนน้ำถึงจะเต็ม
สำหรับโครงสร้างการระบายน้ำของเขื่อนในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เราจะดูเฉพาะเขื่อนวชิราลงกรณ ไม่ได้ เพราะยังมีเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนสุดท้ายที่เป็นตัวชี้วัต ก็คือ เขื่อนแม่กลอง อ.ท่าม่วง ที่อยู่ท้ายน้ำ และปัจจุบันเขื่อนแม่กลองยังระบายน้ำตามปกติ ซึ่งไม่เกินวันละ 20 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน แต่ถ้าหากเกิดวิกฤต เขื่อนท่าม่วงจำเป็นต้องระบายน้ำเพิ่มขึ้นวันละมากๆ นั่นแสดงว่าทั้ง 2 เขื่อนใหญ่ไม่สามารถจัดการตัวเองได้แล้ว แต่ทุกวันนี้ยังเป็นปกติอยู่
รายงานว่า หลังจากที่ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผวจ.กาญจนบุรี ได้ตรวจสอบสภาพน้ำบริเวณสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ ร.9 (ท่าน้ำเทศบาล) แล้วเสร็จ จากนั้นจึงได้เดินทางมุ่งหน้าไปเยี่ยมเยียนราษฎร ที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี โดยเฉพาะราษฎรในพื้นที่บ้านเกาะสะเดิ่ง บ้านสะเนพ่อง ต.ไล่โว โดย นางรชยา ภูมิสวัสดิ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี ได้นำขนมไปแจกจ่ายให้แก่เด็กๆ ด้วย ซึ่งคณะทั้งหมดจะได้จัดเตรียมการประชุม และรับฟังการรายงานข้อมูลความเสียหาย เพื่อหาแนวทางให้ความช่วยเหลือราษฎรต่อไป
ล่าสุด เมื่อเวลา 16.30 น.ศูนย์อุทกวิทยาชลประทานภาคตะวันตก (กาญจนบุรี) สำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา กรมชลประทาน ได้รายงานสภาพน้ำท่า ที่สถานี K.54 บริเวณสะพานรถยนต์บ้านลิ้นถิ่น อ.ทองผาภูมิ ระดับตลิ่ง 7.50 เมตร อัตราการไหล 890.00 ลบ.ม./วินาที ที่สถานี K.58 บริเวณท่าน้ำปากแซง ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค ระดับตลิ่ง 7.60 เมตร อัตราการไหล 770.00 ลบ.ม./วินาที ที่สถานี K.10 บริเวณบ้านลุ่มสุม อ.ไทรโยค ระดับตลิ่ง 10.30 เมตร อัตราการไหล 950.00 ลบ.ม./วินาที
สถานี K.37 บริเวณบ้านวังเย็น อ.เมืองกาญจนบุรี ระดับตลิ่ง 11.65 เมตร อัตราการไหล 2,300.00 ลบ.ม./วินาที แสะที่สถานี K.11A แม่น้ำแม่กลอง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ระดับตลิ่ง 6.20 เมตร อัตราการไหล 1,700.00 ลบ.ม./วินาที