เชียงราย - อธิบดีกรมอุทยานฯ-อาจารย์เฉลิมชัย พร้อมศิลปินเชียงราย ร่วมขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อนตอกหมุดวางผังสร้างศาลาพิพิธภัณฑ์-ตั้งรูปปั้น “จ่าแซม-วีรบุรุษถ้ำหลวง” แล้ว คาดไม่เกิน 5 เดือนอนุสรณ์สถานปฏิบัติการช่วย 13 หมูป่าฯ เสร็จ
วันนี้ (1 ส.ค.) นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช, นายกมลไชย คชชา ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย), นายสมศักดิ์ เจียมสงวนวงศ์ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) พร้อมด้วยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงราย, อาจารย์สมลักษณ์ ปันติบุญ ศิลปินผู้ชำนาญด้านไม้ อาจารย์สราวุฒิ คำมูลชัย ศิลปินช่างปั้นมือหนึ่ง และศิลปินชาวเชียงราย ได้เข้าไปประกอบพิธีขอขมา และขอก่อสร้างศาลาพิพิธภัณฑ์ถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย
เพื่อรำลึกถึงปฏิบัติการช่วยเหลือทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี 13 คนที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ก่อนจะได้รับการช่วยเหลือออกมาทั้งหมดในวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา และรูปปั้น นาวาตรี สมาน กุนัน หรือจ่าแซม อดีตหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หรือหน่วยซีล ที่เสียชีวิตจากปฏิบัติการดังกล่าว
โดยร่วมกันนำดอกไม้ธูปเทียนกล่าวขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ถ้ำหลวงเพื่อก่อสร้างสิ่งต่างๆ ดังกล่าวอย่างเรียบง่าย ก่อนจะจัดวางผัง ตอกหลักไม้กำหนดจุด และขึงด้วยเชือกตามแบบแปลนอาคารที่จะก่อสร้างเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า 2 อาคารคืออาคารหลัก และห้องน้ำด้านหลัง รวมทั้งจุดที่จะตั้งรูปปั้นจ่าแซมด้านหน้าศาลาพิพิธภัณฑ์ดังกล่าว ก่อนจะโรยปูนขาวเป็นสัญลักษณ์ให้คณะช่างได้เข้าไปก่อสร้างตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ ในช่วงประกอบพิธีได้มีการเปิดให้ประชาชน และสื่อมวลชนเข้าไปถึงหน้าถ้ำหลวงเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่มีการประกอบพิธีบวงสรวง-ปิดถ้ำ และหลังจากนี้ก็จะปิดถนนทางเข้าห่างจากปากถ้ำประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อให้เจ้าหน้าที่และทีมช่างสามารถเข้าไปก่อสร้างได้โดยสะดวก
อาจารย์เฉลิมชัยกล่าวว่า ดีใจมากที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ช่วยเหลือเร่งรัดให้สามารถเข้ามาก่อสร้างอาคาร และงานประติมากรรมบริเวณถ้ำหลวงได้อย่างรวดเร็ว โดยอาคารที่จะสร้างนี้จะจัดแสดงภาพวาด The Heroes ความยาวประมาณ 13 เมตร กว้าง 3 เมตร ที่ศิลปินได้วาดเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว และภาพเพิ่มเติมที่จะวาดขึ้นอีก 2 ใบ เพื่อให้บึกทึกเหตุการณ์สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันจะขอรูปถ่ายเจ้าหน้าที่ที่ร่วมปฏิบัติงาน เพื่อเล่าเรื่องราวการช่วยเหลือทีมหมูป่าทั้ง 13 คน ให้ผู้คนทั่วโลกได้ชมได้อย่างสมบูรณ์แบบ
สำหรับรูปปั้นจ่าแซม ที่จะนำมาตั้งด้านหน้าศาลานั้น ปัจจุบันปั้นเสร็จไปแล้วประมาณ 40% ซึ่งทางศิลปินแกะสลักหินจาก อ.แม่สาย ก็ขอเข้ามามีส่วนร่วม โดยจะแกะสลักหินแกรนิตสีดำ 2 ก้อน มูลค่ากว่า 800,000 บาทไม่รวมค่าแกะสลัก เป็นฐานให้กับรูปปั้นดังกล่าวด้วย
อาจารย์เฉลิมชัยกล่าวอีกว่า สถานที่แห่งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติมาก เพราะจะรำลึกถึงเหตุการณ์ความร่วมมือและวีรบุรุษที่เสียสละชีวิตของตัวเอง ซึ่งจะทำให้มีนักท่องเที่ยว และผู้สนใจจากทั่วโลกเดินทางมาเที่ยว มาศึกษา ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาอีกประมาณ 4-5 เดือนก็แล้วเสร็จ โดยจะเป็นอาคารและประติมากรรมที่เข้ากับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้อย่างลงตัว
ด้านอาจารย์สมลักษณ์กล่าวว่า อาคารพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะกว้าง 10 เมตร ยาว 20 เมตร ส่วนรูปปั้นจ่าแซมจะตั้งห่างออกไปประมาณ 5 เมตร ขณะที่ห้องน้ำด้านหลังยาว 16 เมตร กว้าง 6 เมตร รูปทรงเป็นศิลปะล้านนาประยุกต์ หรือศิลปะร่วมสมัย เพราะพวกเราต่างเป็นศิลปินร่วมสมัย
ด้านนายธัญญาได้ระบุถึงการพัฒนาพื้นที่ว่า เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นของกรมป่าไม้ แต่ทางกรมอุทยานแห่งชาติฯ ดูแลอยู่ จึงได้หารือกับอธิบดีกรมป่าไม้จนได้รับอนุญาตแล้ว และขั้นตอนการก่อสร้างทุกอย่างถือว่าถูกต้องตามกฎหมาย ขณะที่การผลักดันให้เป็นอุทยานแห่งชาตินั้นจำเป็นต้องให้ประชาชนในพื้นที่เสนอขึ้นไปก่อน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการเสนอเรื่องไปยังกรมอุทยานแห่งชาติฯ
อย่างไรก็ตาม อาจารย์เฉลิมชัยรับปากว่าจะเข้าไปช่วยพูดคุยกับชาวบ้านในท้องถิ่นเพื่อให้เห็นถึงประโยชน์ต่อไป เนื่องจากการยกฐานเป็นอุทยานแห่งชาติจะสามารถบริหารจัดการ หารายได้ และพัฒนาเองได้ ซึ่งแตกต่างจากการเป็นวนอุทยานฯ ที่มีข้อจำกัดมากกว่า