xs
xsm
sm
md
lg

หลอกลงทุนผ่านเฟซบุ๊ก! ตำรวจโคราชรวบแก๊งแสบตุ๋นเหยื่อกว่า 100 ราย สูญเงินอื้อ 58 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “ผบช.ภ.3” แถลงเอง ตำรวจโคราชรวบแก๊งหลอกลงทุนผ่านเฟซบุ๊ก ตุ๋นเหยื่อกว่า 100 ราย สูญเงินอื้อ 58 ล้าน เผยเสนอเงินปันผลสูงล่อเหยื่อโอนเข้าบัญชีธนาคารเพื่อร่วมลงทุนจำนวนมาก สุดท้ายไม่จ่ายตามตกลง

วันนี้ (18 ก.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประพัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3( ผบช.ภ.3) เป็นประธานแถลงข่าว คดี “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันกระทำการกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกประชาชน” คดีอาญาที่ 503/2561 ของ สภ.โนนสูง จ.นครราชสีมา

ทั้งนี้สืบเนื่องจากวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา น.ส.นุชนาถ ชั้นกลาง ผู้เสียหาย กับพวกรวม 35 คน ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ให้ดำเนินคดีต่อผู้ต้องหารวม 4 คน ประกอบด้วย 1. นางปิยวดี เดชผล อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาที่ 1, 2. นายณรงค์ เดชผล อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาที่ 2, 3. นางสมฤดี ศรีจะบก อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาที่ 3 และ 4. น.ส.กรรณิกา เชิญกลาง อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาที่ 4 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันกระทำการกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน”

จากการสืบสวนทราบว่า เมื่อประมาณปี 2560-เมษายน 2561 นางปิยวดี เดชผล ได้ใช้ เฟซบุ๊ก ชื่อ “เบียร์ เบียร์ เบียร์” ชักชวนให้ประชาชนทั่วไปร่วมลงทุนหรือฝากเงิน แล้วเสนอเงินปันผลให้ร้อยละ 10 บาทต่อ 10 วัน ต่อมากลุ่มผู้เสียหายหลงเชื่อได้ร่วมลงทุนจำนวนมาก โดยผู้เสียหายโอนเงินไปยังบัญชีธนาคาร 5 บัญชี

หลังจากฝากเงินร่วมลงทุนแล้ว ผู้เสียหายได้รับเงินปันผลตามที่ตกลงตลอดมา ต่อมาเมื่อประมาณเดือนเมษายน 2561 นางปิยวดี เดชผล ได้เสนอโครงการฝากเงินรายวันได้รับปันผลทุกวัน ร้อยละ 2-20 บาท/วัน มีกลุ่มผู้เสียหายจำนวนมากหลงเชื่อได้ร่วมลงทุนโอนเงินเข้าบัญชีดังกล่าวข้างต้น แต่ต่อมาปรากฏว่าผู้ต้องหาไม่ได้จ่ายเงินปันผลตามที่ตกลง ผู้เสียหายจึงทวงถามและขอเงินลงทุนคืนแต่กลุ่มผู้ต้องหาไม่ยอมคืนเงินให้จนถึงปัจจุบัน

โดยแจ้งแก่ผู้เสียหายว่า ถ้าอยากได้เงินคืนให้ไปฟ้องร้องคดีเอาเอง ผู้เสียหายเชื่อว่าถูกหลอกลวง อันเป็นการฉ้อโกงประชาชน จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาดังกล่าว ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในคดีนี้

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้งหมดเข้าพบพนักงานสอบสวนและให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วเห็นว่ามีเหตุให้ออกหมายขัง เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี จึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คนไปยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนครราชสีมาขอให้ออกหมายขังและขอคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราว (ประกันตัว) คดีนี้มีผู้เสียหายมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนจำนวน 115 ราย รวมความเสียหายเป็นเงิน 58,817,703 บาท

สำหรับมาตรการยึด อายัด ทรัพย์สินของผู้ต้องหา พนักงานสอบสวนได้มีหนังสือไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อดำเนินการยึด อายัด ทรัพย์สินของผู้ต้องหา เป็นอีกส่วนหนึ่งแล้ว ทราบว่าอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการ ปปง.

ในคดีดังกล่าวคาดว่าจะสรุปสำนวนการสอบสวนและมีความเห็นเสนอพนักงานอัยการ ภายในเดือน ก.ค.นี้


กำลังโหลดความคิดเห็น