MGR Online - รอง ผบช.ทท.- ปปง.แถลงจับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์บังดำ หลังรับตัวมาจากมาเลย์ ผู้ต้องหาคนไทย 8 ราย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ร่วมกันทลายบ้านเดี่ยวหรูบนยอดเขา รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย อายัดเงินคืนผู้เสียหาย 117 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 23 ล้านบาท
วันนี้ (3 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 17.30 น. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมเจ้าหน้าที่ ปปง.ตัวแทนธนาคารพาณิชย์ แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์คนไทย หลังรับตัวมาจากประเทศมาเลเซีย จำนวน 8 คน เพื่อมาดำเนินคดีในประเทศไทย หลังจากตำรวจท่องเที่ยวร่วมกับตำรวจประเทศมาเลเซียบุกทลายขบวนการดังกล่าว เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2561 ภายในบ้านเดี่ยวหรูบนยอดเขา รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 10 คน เป็นคนไทย 8 คน และคนไต้หวันอีก 2 คน โดยทั้ง 8 คน เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันพยายามฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, เป็นอั้งยี่, เป็นซ่องโจร และร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 8 คน มีทั้งรับสารภาพ และปฏิเสธ แต่หนึ่งในผู้ต้องหาสำคัญชื่อบังดำ (สงวนชื่อ นามสกุล) ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งที่มีความเชี่ยวชาญก่อเหตุมาหลายที่ ถือเป็นรุ่นแรกๆ ที่ทำคอลเซ็นเตอร์ มีการติดต่อคนไทยไปทำงานต่างประเทศ ก่อนจะหลอกให้ไปทำคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งบังดำก่อเหตุมาอย่างต่อเนื่อง เคลื่อนย้ายฐานปฏิบัติการไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง แต่ก็ถูกจับกุมในที่สุด ส่วน นายเฉิน หยวน ไข่ ผู้ต้องหารายสำคัญอยู่ระหว่างการติดตามจับกุม ซึ่งรายนี้ก็มีเครือข่ายอยู่หลายประเทศเช่นกัน
รอง ผบช.ทท. กล่าวอีกว่า ด้วยความร่วมมือที่ใกล้ชิดกับตำรวจนานาประเทศ ทำไห้ประเทศไทยสามารถนำตัวผู้ต้องหากลับมาดำเนินคดีในไทย และหลังจากนั้น จะเร่งตรวจสอบเส้นทางการเงิน นอกจากนี้ ยังมีผู้กระทำความในผิดที่ประเทศจีน ซึ่งต้องติดตามจับกุมมาให้ได้ สำหรับการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ถือดีขึ้นมาก เป็นเพราะการปราบปรามอย่างต่อเนื่อง หลังจากนี้ จะเดินหน้าปราบปรามแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหด และแก๊งโรแมนซ์สแกมอีกต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าว พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ได้คืนเงินที่อายัดได้ให้กับประชาชนที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก จำนวน 3 ราย เหตุเกิดในพื้นที่ สน.โชคชัย สน.หนองแขม และ สภ.เมืองนนทบุรี รวมเป็นจำนวนเงินกว่า 1,040,000 บาท อย่างไรก็ตาม จากผลการปฏิบัติงานในการอายัดเงินของผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เจ้าหน้าที่สามารถอายัดเงินคืนให้แก่ผู้เสียหายได้แล้วจำนวนกว่า 117 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 23 ล้านบาท ทั้งนี้ ตั้งแต่ดำเนินการมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 มีการรับแจ้งความต่อเนื่อง 400 คดี ความเสียหายกว่า 200 ล้าน