MGR Online - ตำรวจท่องเที่ยวร่วมกับหน่วยปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจมาเลเซีย บุกทลายบ้านหรูกลางเนินเขารัฐปีนัง หลังสืบทราบเป็นเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ “เฉิน หยวนไข่” พบคนไทยร่วมมือกับแก๊งเป็นพนักงานรับโทรศัพท์ 10 คน มีไต้หวันควบคุมดูแล 2 คน
วานนี้ (5 มิ.ย.) เวลาประมาณ 23.30 น. (เวลาประเทศมาเลเซีย) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมด้วยพ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 บช.ทท., พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 บช.ทท. พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ.บช.น. พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.ปพ.ภ.2 พ.ต.อ.สมยศ ศรีศรยุทธ์ ผกก.กลุ่มงานประสานงานข่าวต่างประเทศ บก.ส.4 บช.ส. พ.ต.ท.เขมรินทร์ พิสมัย รอง ผกก.สส.สน.ห้วยขวาง บก.น.1 บช.น. พ.ต.ท.อาริศ คูประสิทธิรัตน์ รอง ผกก.สายตรวจ บก.สปพ.บช.น. พ.ต.ท.นฤวัต พุทธวิโร สว.งานสายตรวจ 1 กก.สายตรวจ บก.สปพ.บช.น. พ.ต.ท.ศิลา ตันตระกูล สว.ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล.บช.ก. พ.ต.ต.พรชัย สุขเจริญ สว.สส.สน.วัดพระยาไกร พ.ต.ต.นที คุ้มล้วนล้อม สว.งานสายตรวจ 2 กก.1 บก.จร.บช.น. ร.ต.ต.สถาพร เทศบรรทัด รอง สว.(อก.) ฝอ.6 บก.อก.บช.ทท. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจมาเลเซีย ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยวไทย บุกเข้าไปภายในบ้านเดี่ยวบนเนินเขาย่านถนนมารี พิทเช รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย ที่ตั้งของศูนย์คอลเซ็นเตอร์ ที่แตกกลุ่มมาจากแก๊งของนายเฉิน หยวนไข่ ชาวไต้หวัน ที่ยังอยู่ระหว่างหลบหนีการประกันตัวตั้งแต่ปี 2560 หลังสืบทราบว่าเป็นศูนย์สั่งการคอลเซ็นเตอร์เป็นแก๊งของนายเฉิน หยวนไข่ ที่มาเปิดศูนย์สั่งการเพิ่มเติมนอกเหนือจากประเทศกัมพูชาซึ่งถูกทลายไปก่อนหน้านี้ โดยมีนายปั๊กเป้า ชาวไต้หวันเป็นหัวหน้า
จากการเข้าตรวจค้นภายในบ้านเดี่ยวสุดหรูดังกล่าว แบ่งออกเป็นห้อง มีโต๊ะ ฉากกั้นเสียง พร้อมอุปกรณ์สื่อสารทั้งคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ ซิมโทรศัพท์พร้อมใช้งาน สมุดบัญชีธนาคาร นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบโพยรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับสูงรวมถึงบทสนทนาระหว่างแก๊งคอลเซ็นเตอร์กับเหยื่อที่กำหนดไว้ เช่น จากหน่วยปราบปรามยาเสพติด หน่วยปราบปรามการฟอกเงิน ไปจนถึงศาล
นอกจากนั้นยังพบคนไทยจำนวน 10 คน ทำหน้าที่โทรศัพท์หาเหยื่อปลายทางในประเทศไทย และมีชายชาวไต้หวัน 2 คน ทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมและสั่งการในการหลอกลวงเหยื่อตามกลุ่มเป้าหมายที่ถูกสั่งจากนายปั๊กเป้า ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ชาวไต้หวัน ซึ่งแก๊งนี้เริ่มปฏิบัติการหลอกลวงคนไทยเป็นเวลา 1 เดือนเศษ มีเหยื่อหลงกลโอนเงินให้แล้วกว่า 4 แสนบาท
ทั้งนี้ การบุกเข้ามากวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นครั้งที่ 3 ในมาเลเซียของตำรวจท่องเที่ยว และยังเป็นครั้งแรกในการบุกเข้าจับยามวิกาลในต่างแดน ซึ่งจะเห็นได้ว่าการขับเคลื่อนของแก๊งนี้ยังอาศัยคนไทยเป็นตัวเชื่อมสำคัญ ขณะที่กลุ่มคนไทยก็ยังคงปฏิเสธ และอ้างว่าถูกหลอกมาทำงาน โดยหนึ่งในคนไทยซึ่งเป็นทีมงานคอลเซ็นเตอร์ที่เดินทางมาจากจังหวัดสงขลา และสุโขทัย อ้างว่ารู้แค่มาทำงาน แต่ไม่รู้ว่าเป็นคอลเซ็นเตอร์
ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า สำหรับการบุกเข้าทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศมาเลเซียครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 แล้ว แก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้เป็นแก๊งตั้งใหม่ที่พยายามย้ายศูนย์เพื่อหลบหนีการตรวจสอบ แต่เทคนิคหรือวิธีการยังเป็นแบบเดิม โดยก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะบุกเข้าทลาย 1 ใน 10 คนไทย หลบหนีออกมาได้ก่อนโดยมุ่งหน้ากลับไปยังอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา แต่ถูกตำรวจรวบตัวได้ก่อนที่จะหลบหนี
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ยังกล่าวด้วยว่า การทำงานปราบปรามระหว่างประเทศ ครั้งที่ 3 ในมาเลเซีย ได้รับการยอมรับและตอบสนองจากทางการมาเลเซียมาก ไม่เพียงจะช่วยตามรอยเบาะแสและพิกัดที่ตั้ง ยังให้ตำรวจท่องเที่ยวของไทยพร้อมชุดสายสืบเข้าร่วมจับกุมด้วย ถือเป็นการทำงานตามแนวทาง วันเวิลด์ วันทีม หรือตำรวจหนึ่งเดียวทั่วโลก