xs
xsm
sm
md
lg

บิ๊กภาค 4 ลั่นอดีตผู้การฯ เลยเชิดเงิน 229 ล้านเจอฟันทั้งวินัย-อาญา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เลย - ผบช.ภ.4 เผยผลสอบปากคำนายตำรวจเมืองเลย 192 นายที่ถูกอดีตผู้การฯ “พล.ต.ต.สุทิพย์” หลอกเข้าโครงการกู้รวมหนี้ของสหกรณ์ฯ เสร็จภายในศุกร์นี้ ลั่นจะช่วยเหลือทุกทางไม่ยอมให้ลูกน้องอดตาย มั่นใจสหกรณ์ตำรวจเลยไม่ล้มแน่เพราะตั้งผู้จัดการสหกรณ์คนใหม่เคลียร์ปัญหาแล้ว

จากกรณีตำรวจในจังหวัดเลยได้เข้าร่วมโครงการกู้รวมหนี้ของสหกรณ์ฯ ในสมัย พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช เป็น ผบก.ภ.จ.เลย โดยหลอกผู้ใต้บังคับบัญชาที่ร่วมเข้าโครงการ 192 นายกู้เงินสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจเลยมาลงทุน จนต้องสูญเงินกันรวมกว่า 229 ล้านบาท

ต่อมา พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 ได้แต่งตั้งให้ พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิเดชไพบูลย์ รอง ผบช.ภ.4 เป็นหัวหน้าคณะกรรมการการสอบสวนข้อเท็จ และได้เรียก พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช อดีต ผบก.ภ.จ.เลย มาสอบสวน แต่ไม่มาตามนัดถึง 2 ครั้ง เพียงแต่ส่งเอกสารรายงานการนำเงินในโครงการฯ ไปร่วมหุ้นกับสองผัวเมียใน จ.ขอนแก่นเท่านั้น

ล่าสุดวันนี้ (21 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 ได้เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ 192 นายที่ตกเป็นเหยื่อโครงการกู้รวมหนี้ของสหกรณ์ มาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจากตำรวจภูธร ภาค 4 พร้อมกันนี้ได้สั่งให้มีการแจ้งดำเนินคดีทางอาญาต่อ พล.ต.ต.สุทิพย์

พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 เปิดเผยว่า คดีนี้ท่าน ผบ.ตร.ได้กำชับให้ดูแลอย่างใกล้ชิด หลังจากได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นแล้วว่ามีมูลความผิดทางคดีอาญา และได้แต่งตั้งพนักงานสอบสวนของภาค 4 ร่วมกับพนักงานสอบสวนของจังหวัดเลยมาร่วมกันสอบสวนกลุ่มผู้เสียหาย คือเจ้าหน้าที่ตำรวจ 192 นาย ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย ต่างทยอยเดินทางมาให้ปากคำ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันพรุ่งนี้ (22 มิ.ย.) พร้อมกับแจ้งความดำเนินคดีอาญาในข้อหา การกู้ยืมเป็นการฉ้อโกงประชาชน มีโทษทั้งจำทั้งปรับ

ส่วนในเรื่องวินัยก็ได้สรุปความเห็นที่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงไปแล้วว่ามีมูลฐานความผิดทางอาญา พร้อมกับสรุปให้ ผบ.ตร.ทราบ

อย่างไรก็ตาม ในกรณีการแจ้งความดำเนินคดีทางอาญานั้น ได้เร่งรัดให้พนักงานสอบสวนแบ่งการทำงานเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งมาสอบปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นผู้เสียหาย อีกส่วนไปที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพราะจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินที่ได้ร่วมกับ ปปง.พบว่าเงินจากโครงการรวมหนี้ฯ ส่วนใหญ่ไปที่ตลาดหลักทรัพย์ โดยมี พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิเดชไพบูลย์ รอง ผบช.ภ.4 เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนไปที่ตลาดหลักทรัพย์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนการแจ้งความดำเนินคดีให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 192 นายเป็นผู้กล่าวโทษร้องทุกข์เพราะเป็นผู้เสียหายโดยตรง

พล.ต.ท.สุรชัยเปิดเผยอีกว่า ในส่วนทางแก้ปัญหาบรรเทาความเดือดร้อนให้นายตำรวจทั้ง 192 นายนั้น ขณะนี้ทางสหกรณ์ตำรวจเลยได้รับการช่วยเหลือทางการเงินจากสหกรณ์ตำรวจได้นำเงินมาฝากบางส่วนและปล่อยให้กู้เงินเพิ่มเติมบางส่วน เพื่อให้เงินกู้ฉุกเฉินแก่กลุ่มผู้เสียหาย และตอนนี้ได้เชิญมืออาชีพมาเป็นผู้จัดการสหกรณ์ตำรวจเลย ซึ่งมีประวัติการแก้ไขปัญหาการเงินของสหกรณ์ที่จังหวัดสุรินทร์ และนครราชสีมา สำเร็จมาแล้ว มั่นใจว่าจะช่วยแก้ปัญหาสหกรณ์ตำรวจเลยได้ ไม่ล้มแน่นอน

“ลูกน้องผู้เสียหายนายตำรวจทั้ง 192 นาย ผมขอยืนยันจะไม่ยอมให้อดตายแน่นอน จะพยายามช่วยเหลือทุกวิถีทาง ส่วนการดำเนินคดี ขั้นตอนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานและได้แจ้งข้อหาไปแล้ว ถ้าเจอทรัพย์ยังเหลือ ทาง ปปง.จะสั่งอายัดทันที” พล.ต.ท.สุรชัยกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น