พิษณุโลก - แพทย์และเภสัชฯ โรงพยาบาลพุทธชินราช เร่งแจ้งคนไข้นำยาลดความดัน VALSARTAN คืน หลังองค์การยายุโรปตรวจพบมีสารปนเปื้อนอาจก่อเกิดมะเร็ง เผยจ่ายยาให้ผู้ป่วย 360 คนมา 3 ปี ยังไม่พบอาการผิดปกติ
วันนี้ (17 ก.ค.) นพ.โตมร ทองศรี รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ รพ.พุทธชิราช พร้อมด้วยเภสัชกรประจำโรงพยาบาลพุทธชินราช ร่วมกันแถลงข่าว การเรียกยาลดความดันคืนจากผู้ป่วยหลังตรวจพบว่ายาผลิตจากบริษัท สีลมการแพทย์ จำกัด ใช้ชื่อการค้าว่า VALATAN และบริษัท ยูนิซัน ชื่อการค้าว่า VALSARIN และบริษัท ยูนิซัน จำกัด ใช้วัตถุดิบจากบริษัท Zhejieng Hauhai Pharmaceuticals ตรวจสอบพบสารปนเปื้อน (NDMA) ซึ่งเป็นสารที่อาจก่อให้เกิดมะเร็ง
นพ.โตมร ทองศรี กล่าวว่า โรงพยาบาลพุทธชินราชได้ให้ยาลดความดัน VALSARTAN ไปประมาณ 360 คน 80% เป็นคนไข้ในพิษณุโลก ที่เหลือเป็นคนไข้จากจังหวัดใกล้เคียง โดยมีการจ่ายให้คนไข้มาแล้ว 3 ปี ล่าสุดหลังจากแจ้งไปแล้ว 4 ช่องทาง คือ 1. ทางเฟซบุ๊กของโรงพยาบาล 2. ติดต่อทางโทรศัพท์ 3. การติดประกาศ และ 4. ประกาศทางสถานีวิทยุ ขณะนี้คนไข้นำยามาเปลี่ยนแล้วประมาณ 50 คน
นพ.โตมรกล่าวอีกว่า ยาชนิดนี้เป็นที่นิยมใช้ในการรักษาคนไข้โรคหัวใจ หลอดเลือด และความดันสูง มีการศึกษาวิจัยชัดเจน ว่ามีประโยชน์ในการควบคุมความดัน รักษาผู้ป่วยโรคหัวใจ และใช้ทั่วโลก ปัจจุบันมีผู้ผลิตตัวยานี้ 7 บริษัท โดยการสั่งซื้อสารตั้งต้นจากแหล่งต่างๆ กระทั่งวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมามีการประกาศทางองค์การยาสหภาพยุโรปว่าพบยาชนิดนี้มาสารปนเปื้อนจากสารตั้งต้น ซึ่งมาจาก Zhejieng Hauhai Pharmaceuticals ประเทศจีน ต่อมาทาง อย.ประเทศไทยได้เรียกคืนยาดังกล่าว
ดังนั้น ขอชี้แจงเกี่ยวกับผู้ที่รับประทานยาชนิดนี้อยู่ ก่อนอื่นขอให้ตรวจสอบที่ฉลาก ยา VALSARTAN ก่อนว่าเป็นของบริษัท สีลมการแพทย์ และยูนิชัน หรือไม่ จากนั้นให้ติดต่อนำมาเปลี่ยนกับโรงพยาบาล ถ้าไม่สามารถนำมาเปลี่ยนได้ในวันสองวัน และไม่มียาทานชดเชย ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายหากหยุดทานยากะทันหัน เช่น มีผลทำให้ความดันพุ่งขึ้น อาจจะเป็นอัมพฤกษ์อัมพาต เลือดออกในสมองได้ หรือกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน หรือมีภาวะน้ำท่วมปลอด เป็นอันตรายต่อชีวิตได้นั้น ขออยากจะแนะนำให้ทานไปก่อน แล้วนำมาเปลี่ยนภายหลัง ซึ่งการเปลี่ยนยาในช่วงแรกจะต้องมีการดูแลของแพทย์ด้วย
สำหรับคนไข้ที่ได้รับยา VALSARTAN จากโรงพยาบาลพุธชินราช ทั้งหมดประมาณ 360 คนนั้น ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่ามีผลข้างเคียง หรือก่อเกิดเป็นมะเร็งแต่อย่างใด