อุบลราชธานี - ทหารใจป้ำพร้อมยกพื้นที่กว่า 180 ไร่ สร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ รองรับประชาคมอาเซียนและชาวอีสานใต้กว่า 4 ล้านคน เตรียมชงเข้า ครม.สัญจรที่อุบลฯ 23-24 ก.ค.นี้ เพื่อขออนุมัติ
พล.ต.อรรถ สิงหัษฐิต ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 22 นายเฉลิมพล มั่งคั่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมตัวแทนผู้บริหารโรงพยาบาลศูนย์สรรพสิทธิประสงค์อุบลราชธานี และนายสมชาติ พงคพนาไกร ประธานหอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี ลงสำรวจพื้นที่ของทหารในเขตบ้านห้วยยางต่อเนื่องบ้านบุ่งไหม ต.บุ่งไหม อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เนื้อที่กว่า 180 ไร่ โดยที่แปลงดังกล่าว เป็นที่ดินของกองทัพบก โดยมีมณฑลทหารบกที่ 22 จ.อุบลราชธานี เป็นผู้ดูแล
ที่ผ่านมาใช้เป็นแปลงสาธิตการทำเกษตร เป็นที่ใช้เลี้ยงสัตว์ของทหาร โดยมีลักษณะพื้นที่เป็นสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน มีหน้ากว้างกว่า 500 เมตร ตั้งอยู่ติดถนนวารินชำราบ-พิบูลมังสาหาร โดยห่างจากตัวอำเภอวารินชำราบไปเพียง 7-8 กิโลเมตร
ทั้งนี้ เพื่อนำพื้นที่ดังกล่าวเสนอเข้าสู่การประชุม ครม.สัญจรที่จะมาประชุมที่จังหวัดอุบลราชธานี ระหว่างวันที่ 23-24 ก.ค.นี้ ให้ใช้จัดสร้างโรงพยาบาลขนาดใหญ่ 1,099 เตียง รองรับการให้บริการทางการแพทย์กับประชาชนในพื้นที่อีสานตอนใต้กว่า 4 ล้านคน รวมทั้งให้บริการกับประชาชนประเทศเพื่อนบ้านทั้งลาวและกัมพูชา ซึ่งปัจจุบันได้เข้ามาใช้บริการมากขึ้นทุกวัน
การก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่นี้จะเป็นโรงพยาบาลในเครือข่ายของโรงพยาบาลศูนย์สรรพสิทธิประสงค์ โรงพยาบาลประจำจังหวัดขนาด 1,400 เตียง ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี ก่อตั้งมาแล้วกว่า 82 ปี และมีเนื้อที่ใช้สอยเพียง 25 ไร่ ทำให้ปัจจุบันมีพื้นที่แออัดไม่สามารถขยายพื้นที่การให้บริการได้อีกแล้ว
หากการประชุม ครม.สัญจรในครั้งนี้เห็นชอบกับการผลักดันของหน่วยงานรัฐและภาคเอกชนให้ดำเนินการได้ ก็จะทำให้จังหวัดอุบลราชธานี มีโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่สุดในอีสานตอนใต้ สามารถรับการส่งต่อผู้ป่วยจากจังหวัดใกล้เคียงในเขตอีสานใต้ รวมทั้งจากประชาคมอาเซียน (AEC) ทั้งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และประเทศกัมพูชา ประเทศเพื่อนบ้านอยู่ติดกับจังหวัดอุบลราชธานี จะช่วยลดความแออัดให้กับโรงพยาบาลเดิมที่มีอยู่แล้วได้เป็นอย่างดี
สำหรับโรงพยาบาลแห่งใหม่ที่ขออนุมัติก่อสร้างจะเป็นสถานที่ใช้เตรียมการผ่าตัดของผู้ป่วยไม่ฉุกเฉิน ใช้ดูแลผู้ป่วยจากโรคเรื้อรัง ใช้เป็นสถานที่พักฟื้นผู้ป่วยที่ยังต้องให้แพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด รวมทั้งเป็นศูนย์วิจัยศึกษาโรคอุบัติใหม่และติดเชื้อต่างๆ ซึ่งเป็นการเพิ่มศักยภาพการปฏิบัติงานของแพทย์ให้สามารถรองรับการขยายตัวของประชาชนในอีสานตอนล่างและของประชาคมอาเซียนในอนาคตต่อไป
ส่วนโรงพยาบาลศูนย์สิทธิประสงค์อุบลราชธานีเดิมซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองก็ยังคงให้บริการกับผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน ผู้ป่วยตรวจแล้วกลับ และผู้ป่วยคับขันอื่นๆ ต่อไปเช่นเดิม