แห่เซลฟี! อุบลฯ จัดแต่งดอกเทียนรูปหน้า “ลุงตู่” ต้อนรับประชุม ครม.สัญจร

อุบลราชธานี - สวนสัตว์อุบลฯ จัดเรียงดอกเทียนขี้ผึ้งเป็นภาพหน้าเหมือน “ลุงตู่” ต้อนรับประชุม ครม.สัญจร 23-24 ก.ค.นี้ ขณะเดียวกัน ประชาสังคมคนอุบลฯ ชงเรื่องเสนออนุมัติสร้างโรงพยาบาลขนาดใหญ่แห่งใหม่ 1,099 เตียง เพื่อรองรับประชากรไทยและอาเซียนที่จะขยายตัวในอนาคต

ที่ลานส่วนการจัดแสดง สวนสัตว์อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่นำดอกขี้ผึ้งรุ้ง 7 สี จัดเรียงเป็นรูปใบหน้าของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งจะมาเป็นประธานเปิดงานแห่เทียนเข้าพรรษาอย่างเป็นทางการในเย็นวันที่ 23 ก.ค. และประชุม ครม.สัญจรในวันอังคารที่ 24 ก.ค.ที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อแสดงความยินดีที่ พล.อ.ประยุทธ์ ให้ความสำคัญต่อการจัดงานเทศกาลแห่เทียนพรรษาของจังหวัดอุบลราชธานีในปีนี้

โดยดอกเทียนขี้ผึ้งรูปหน้าลุงตู่ดังกล่าวได้รับความสนใจจากประชาชนที่เข้าชมความงดงามของทุ่งดอกเทียนขี้ผึ้งเป็นอย่างมาก ต่างเข้าคิวถ่ายรูปเซลฟีกันไม่ขาดสาย ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ยังนำเทียนที่กลุ่มนักเรียน นักศึกษาของจังหวัดอุบลราชธานี แกะสลักเป็นรูปสัตว์ต่างๆ ส่งเข้าประกวดแข่งขันจัดวางเรียงสลับในทุ่งดอกเทียนขี้ผึ้ง ทำให้ทุ่งดอกเทียนนับแสนดอกดูสวยงามยิ่งขึ้นไปอีก

นายสัตวแพทย์วันชัย ตันวัฒนะ ผู้อำนวยการสวนสัตว์อุบลราชธานี กล่าวถึงการจัดเรียงดอกเทียนขี้ผึ้งรุ้ง 7 สี เป็นใบหน้าของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อเป็นการต้อนรับที่เดินทางมาร่วมประเพณีงานแห่เทียนเข้าพรรษาประจำปีนี้ และร่วมประชุม ครม.สัญจร จึงเอาสายรุ้ง 7 สี ซึ่งเปรียบเหมือนความสุขสดใสที่ท่านนายกฯมาลงพื้นที่ ทำให้ประชาชนชนรู้สึกมีความสุขสดใสเช่นเดียวกัน จึงได้จัดแต่งดอกเทียนที่ใช้ในการทำทุ่งดอกเทียนมาทำเป็นภาพหน้าเหมือนของท่านนายกฯ ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปคู่อย่างมีความสุข

สำหรับการเดินทางมาเปิดงานและประชุม ครม.สัญจร ของคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระหว่างวันที่ 23-24 ก.ค.นี้ กลุ่มเครือข่ายภาคประชาสังคมของจังหวัด ได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ผลักดันให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบกับโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลศูนย์แห่งใหม่ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ 1,099 เตียง เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจและจำนวนประชากรของอีสานตอนใต้กว่า 4 ล้านคน

รวมทั้งประชาชนจากประเทศเพื่อนบ้านที่จะเข้ามาใช้บริการ เพิ่มเติมจากโรงพยาบาลแห่งเดิมที่เปิดให้บริการมานานกว่า 80 ปี และปัจจุบันพื้นที่ค่อนข้างคับแคบ ไม่สามารถขยายพื้นที่ให้บริการได้แล้ว เพื่อสามารถให้บริการด้านการสาธารณสุขกับประชาชนในกลุ่มจังหวัดอีสานตอนใต้อย่างมีประสิทธิภาพ