กาฬสินธุ์ - แม่ใจสลาย หลังขับ จยย.ให้ลูกสาว 2 คน วัย 5 ขวบ และ 11 ขวบซ้อนท้าย ถูกรถกระบะพุ่งชนถูกหามส่งโรงพยาบาลยื้อชีวิต ล่าสุดอาการพ้นขีดอันตราย แต่ลูกสาววัย 11 ขวบถูกตัดขาทิ้ง ต้องกลายเป็นคนพิการตลอดชีวิต
จากกรณีนางปราณี สมตน อายุ 32 ปี บ้านเลขที่ 180/1 หมู่ที่ 4 ต.สงเปลือย อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ด.ญ.ณัฐธิดา วิศรียา อายุ 5 ปี และ ด.ญ.กัญญาภัทร สุริวงค์ อายุ 11 ปี สามแม่ลูกชาว อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นครัวเรือนเป้าหมายแก้ไขปัญหาความยากจนในโครงการกาฬสินธุ์แฮปปี้เนส โมเดล คนกาฬสินธุ์ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ถูกรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีขาว ทะเบียน บล 6112 สกลนคร ที่มีนายธวัชชัย ธงงาม บ้านเลขที่ 78 หมู่ที่ 13 ต.บ่อแก้ว อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ เป็นผู้ขับ พุ่งชนขณะกำลังขี่จักรยานยนต์ซ้อนสามกลับบ้าน ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ มอบหมายให้นายสนั่น พงษ์อักษร รองผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์เข้าเยี่ยม และมอบเงินช่วยเหลือ พร้อมกำชับให้ดูแลอย่างเต็มที่ ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (12 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตึกศัลยกรรม โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ญาติพี่น้องนางปราณีได้ เข้าเยี่ยมอาการด้วยความเป็นห่วง หลังทราบข่าวและเฝ้าติดตามอาการด้วยความห่วงใย และต่างรู้สึกรันทดใจกับชะตากรรมที่นางปราณีและลูกประสบเหตุ ในขณะที่สังคมชาวกาฬสินธุ์กำลังจับตามองว่าหลังจากนี้ไปชีวิตของทั้งสามแม่ลูกจะดำเนินไปอย่างไร เนื่องจากเป็นครอบครัวที่มีความเป็นอยู่อัตคัดขัดสน เป็นที่น่าเวทนาแก่เพื่อนบ้าน
กระทั่งทางจังหวัดมีโครงการกาฬสินธุ์แฮปปี้เนส โมเดล คนกาฬสินธุ์ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ตามนโยบายแก้ไขปัญหาความยากจน ผู้นำชุมชนจึงได้เสนอเข้ารับการช่วยเหลือจากทางราชการตั้งแต่แรกเริ่มโครงการ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 เป็นต้นมา ต่อมานายเทพรัตน์ ตันตยานนท์ นายอำเภอเขาวง ได้บูรณาการภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ปรับปรุงที่พักอาศัย และสร้างอาชีพ แต่กลับต้องมาเคราะห์ร้าย ประสบอุบัติเหตุถูกรถชนพร้อมกันทั้ง 3 คน
นายเทพรัตน์ ตันตยานนท์ นายอำเภอเขาวง กล่าวว่า ครอบครัวนางปราณีเป็นครัวเรือนเป้าหมายที่ได้รับความช่วยเหลือตามโครงการกาฬสินธุ์แฮปปี้เนส โมเดล คนกาฬสินธุ์ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ทั้งนี้ นอกจากจะได้รับความช่วยเหลือด้านที่พักอาศัย ปัจจัยการผลิต เพื่อการประกอบอาชีพแล้ว ยังมองไปที่อนาคตของบุตรนางปราณีทั้ง 2 คนซึ่งเกิดต่างสามี โดยจะประสานผู้มีอุปการคุณ จากหลายๆฝ่ายสนับสนุนในเรื่องทุนการศึกษา ซึ่งเป็นเรื่องของการต่อยอดและพัฒนาคุณภพชีวิต เพื่อเป็นกำลังหลักในการดูแลบุพการีต่อไปในอนาคต
นายนพรัตน์กล่าวอีกว่า จากการที่นางปราณีพร้อมลูกสาวประสบอุบัติเหตุดังกล่าวถือเป็นข่าวร้ายและทำให้เกิดความสะเทือนใจต่อผู้ที่รับทราบข่าวเป็นอย่างมาก ซึ่งมีสภาพไม่ต่างกับตกอยู่ในภาวะทุกข์ซ้ำกรรมซัด พอจะมีคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือกลับมีเหตุร้ายแทรกกลางคัน ต้องขอขอบคุณนายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ นายสนั่น พงษ์อักษร รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ ที่ได้กำชับทั้งฝ่ายพยาบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดี ให้เอาใจใส่ความปลอดภัย เงินช่วยเหลือเยียวยา และค่าสินไหมจากคู่กรณี
ในส่วนของค่ารักษาพยาบาล ทราบว่าใช้สิทธิบัตรทองทั้ง 3 คน หากเกินขอบข่ายสิทธิก็ไม่ใช่ปัญหาที่จะช่วยกันดูแล
ขณะที่ทางอำเภอเขาวงเองได้ประกาศขอธารน้ำใจจากทุกภาคส่วน ร่วมบริจาคเป็นผ้าป่ากองทุนช่วยเหลือ 3 ชีวิต ทางด้านสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.กาฬสินธุ์ ก็แจ้งว่าจะมอบเงินจากกองทุนพัฒนาเด็กให้อีกจำนวนหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม จากการติดตามอาการของสามแม่ลูก ซึ่งเป็นวันที่ 4 ที่เข้ามารักษาตัวที่ตึกศัลยกรรม โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ พบว่า อาการของ ด.ญ.ณัฐธิดา วิศรียา อายุ 5 ปี ลูกสาวคนเล็กที่ขาขวาหัก รักษาโดยการเข้าเฝือก อาการปลอดภัย หมอสั่งให้กลับบ้านได้ ขณะที่นางปราณีผู้เป็นแม่ ขาขวาหัก สะโพกและเชิงกรานแตก อาการพ้นขีดอันตราย แต่ยังต้องอยู่ในการดูแลของหมออีกหลายวันโดยไม่มีกำหนด
ส่วนที่น่ารันทดใจคือ ด.ญ.กัญญาภัทร สุริวงค์ อายุ 11 ปี ลูกสาวคนโต จำเป็นต้องตัดขาขวาทิ้ง เนื่องจากมีบาดแผลฉกรรจ์ และกระดูกแตกละเอียด
นางปราณีกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนฝันร้าย ไม่คาดคิดว่าตนจะพาลูกมารับเคราะห์กรรมอย่างนี้ ก็ได้แต่ระลึกถึงคุณพระคุณเจ้า คุณบิดามารดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั้งปวง ได้โปรดปกป้องคุ้มครองตนและลูกสาวทั้งสองให้ปลอดภัย จะได้กลับไปทำความดีตอบแทนน้ำใจผู้หลักผู้ใหญ่และทุกๆท่าน ที่เอาใจใส่ ไม่ทอดทิ้งครอบครัวของตน ที่ฐานะยากจนข้นแค้น ทั้งคอยอุ้มชูช่วยเหลือให้มีความหวังจะรอดพ้นความทุกข์ยาก แต่กลับมาประสบกับเคราะห์หามยามร้ายในครั้งนี้
“รู้สึกผิดและคงไม่มีวันทำใจได้ คือภาพที่เห็นลูกสาวที่เคยเป็นความหวังที่จะเลี้ยงดูเราในยามแก่เฒ่า กลายเป็นคนพิการตลอดชีวิต ความทุกข์ยากที่ผ่านมา ที่ฐานะยากจน กำลังจะดีวันดีคืน จากการชุบชีวิตใหม่หลังได้เข้าร่วมโครงการกาฬสินธุ์แฮปปี้เนส โมเดล คนกาฬสินธุ์ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง พอประสบอุบัติเหตุจึงไม่ต่างกับฝันสลาย ไม่รู้วันต่อไปจะดำเนินชีวิตอย่างไร” นางปราณีกล่าวทั้งน้ำตา