ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้ประกอบการโรงงานลำไยอบแห้งและชาวสวนลำไยที่เชียงใหม่ เรียกร้องรัฐบาลเตรียมพร้อมวางแผนและออกมาตรการรองรับโดยด่วน หลังพบแนวโน้มส่อเกิดปัญหาผลผลิตลำไยล้นตลาดและราคาตกต่ำสร้างความเดือดร้อน
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่ย่างเข้าสู่ช่วงเก็บผลผลิตลำไยตามฤดูกาลประจำปี 2561 อย่างไรก็ตามพบว่าเกษตรกรชาวสวนลำไยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำพูน เริ่มมีการเก็บผลผลิตออกขายกันเป็นจำนวนมากแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเก็บเพื่อส่งขายเข้าโรงงานลำไยอบแห้ง ที่จำเป็นต้องเปิดรับซื้อผลผลิตเพื่อทำการแปรรูปแทนที่จะปล่อยให้ได้รับความเสียหาย
โดยจากสถานการณ์และแนวโน้มดังกล่าว ทำให้เกษตรกรชาวสวนลำไย รวมทั้งผู้ประกอบการรับซื้อลำไยต่างเกิดความเป็นห่วงกังวลว่าเมื่อย่างเข้าสู่ช่วงเก็บผลผลิตตามฤดูกาลปกติ จะมีปริมาณผลผลิตลำไยล้นตลาดและทำให้เกิดปัญหาราคาตกต่ำ สร้างความเดือดร้อนอย่างมากให้กับทุกฝ่าย จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนและมาตรการเตรียมพร้อมการบริหารจัดการ โดยเฉพาะด้านการตลาดเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว
นางจันจิรา หมื่นใจ เจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัดจันจิราพืชผล ผู้ประกอบการรับซื้อผลผลิตการเกษตรและโรงอบลำไย รายใหญ่ในอำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ต้องเปิดรับซื้อลำไยสดจากชาวสวนลำไยตั้งแต่วันที่ 8 มิ.ย.61 ทั้งที่ยังไม่ถึงช่วงลำไยในฤดู เนื่องจากชาวสวนร้องขอให้ช่วยรับซื้อผลผลิตเพื่อแปรรูปเป็นลำไยอบแห้ง ซึ่งตัดสินใจเปิดรับซื้อทั้งๆ ที่ยังไม่มีออร์เดอร์สั่งซื้อลำไยอบแห้งเข้ามาเลย เพราะเห็นใจชาวสวนที่เก็บผลผลิตมาแล้ว โดยยอมรับว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะต้องประสบปัญหาขาดทุน เนื่องจากยังไม่รู้ว่าจะมีออร์เดอร์เข้ามาเมื่อใด ปริมาณเท่าใด และได้ราคาเท่าใด
ทั้งนี้นางจันจิรา บอกด้วยว่า ขณะนี้รับซื้อลำไยสดรูดร่วงในราคา AA กิโลกรัมละ 14 บาท, A กิโลกรัมละ 12 บาท , B กิโลกรัมละ 7 บาท และ C กิโลกรัมละ 2.5 บาท ซึ่งยอมรับว่าอาจจะเป็นราคาที่ต่ำกว่าต้นทุนการผลิตของชาวสวน แต่เป็นราคากลางๆ ที่ให้ได้ เพราะต้องรับซื้อไว้ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าอนาคตหรือแนวโน้มตลาดในปีนี้จะเป็นอย่างไร ซึ่งหลังจากที่เปิดรับซื้อมาจนถึงเวลานี้ทำให้มีปริมาณลำไยที่รับซื้อไว้และที่ทำการอบแห้งบรรจุกระสอบเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลายพันกระสอบวางเต็มโกดังไปหมดจนแทบจะล้นอยู่แล้ว โดยที่ยังไม่มีออร์เดอร์สั่งซื้อเข้ามาเลย
โดยสิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างมากในเวลานี้ก็คือกังวลว่าปริมาณผลผลิตลำไยในปีนี้จะล้นตลาดและราคาตกต่ำ เพราะในเวลานี้ที่ยังไม่ถึงช่วงลำไยในฤดูยังมีผลผลิตออกมาเป็นจำนวนมากแล้ว ดังนั้นเมื่อถึงช่วงลำไยในฤดูที่จะเริ่มต้นช่วงต้นเดือน ก.ค.นี้ จึงเป็นห่วงว่าจะมีลำไยทะลักเข้าสู่ตลาดอีกจำนวนมหาศาล ทั้งนี้จึงอยากเรียกร้องให้ทางรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจข้อมูล วางแผน และออกมาตรการบริหารจัดการผลผลิต โดยเฉพาะด้านการตลาด เตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์เป็นการด่วน เพื่อป้องกันปัญหาโดยเร็วที่สุด
ขณะที่นายเอกลักษณ์ กิตติมา อายุ 31 ปี ซึ่งรับซื้อและรวบรวมผลผลิตลำไยจากชาวสวนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำพูน ส่งโรงงานลำไยอบแห้ง เปิดเผยว่า ปีนี้มีผลผลิตลำไยออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมากกว่าปีที่ผ่านมาทั้งที่ยังไม่เข้าสู่ช่วงลำไยในฤดู โดยเวลานี้ยังไม่มีโรงงานใดเปิดรับซื้อผลผลิต ยกเว้นที่อำเภอจอมทอง จึงนำผลผลิตมาขาย
ซึ่งราคาลำไยในปีนี้เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงปีที่แล้วถือว่าตกต่ำลง ทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงฤดูปกติที่จะมีปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว ทำให้เชื่อว่าปีนี้ปริมาณผลผลิตจะล้นตลาดและเกิดปัญหาราคาตกต่ำทำให้เกษตรชาวสวนลำไยได้รับความเดือดร้อนอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงอยากจะวิงวอนขอร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งวางแผนและออกมาตรการรองรับโดยด่วนที่สุด.