ชัยภูมิ- สุดทน ชาวสระพังชัยภูมิ จิตอาสาช่วยกันบริจาคเงินซื้อปูนหินทรายซ่อมถนนพังกันเอง หลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่เหลียวแล เดือดร้อนมานาน 10 ปี เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนทั้งเด็กลูกหลานไปโรงเรียน คนป่วยไปโรงพยาบาลหาหมอ และเกษตรกรขนผลผลิตการเกษตรไปขาย
วันนี้ (19 พ.ย.) ชาวบ้านในตำบลสระพัง อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ กว่า 100 คน นำโดย นายประดิษฐ์ พงษ์สระพัง กำนันตำบล ได้พากันบริจาคเงินเพื่อซื้อปูนซีเมนต์ หิน ทราย พร้อมช่วยกันซ่อมแซมถนนที่ผุพังเป็นหลุมเป็นบ่อ ระยะทางกว่า 4 กิโลเมตร (กม.) ทำให้การสัญจรไปมาของชาวบ้านหลายหมู่บ้านได้รับความเดือดร้อน ทั้งการขนส่งผลิตผลทางการเกษตร เด็กนักเรียนไปโรงเรียน และผู้เจ็บป่วยเดินทางไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลด้วยความลำบากมานานกว่า 10 ปี โดยที่ผ่านมาได้เรียกร้องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่ไม่มีหน่วยงานใดมาช่วยเหลือแก้ปัญหาให้จนถึงปัจจุบัน
ตัวแทนชาวบ้านเปิดเผยว่า ถนนจากหมู่บ้านสระพังถึงบ้านสะเดาหนองไผ่ชำรุดเสียหายเป็นระยะทางกว่า 4 กม. เป็นเส้นทางเชื่อมต่อถนนสาย 2389 แก้งคร้อ-หนองเรือ จ.ขอนแก่น มีชาวบ้านที่ใช้เส้นทางนี้หลายหมู่บ้าน เช่น บ้านสระพัง บ้านหนองไผ่ เกษตรกรใช้เป็นเส้นทางขนส่งพืชผลทางการเกษตร เช่น มันสำปะหลัง อ้อย ข้าวออกไปขายโดยเฉพาะช่วงนี้เป็นฤดูเก็บเกี่ยวข้าว แต่ถนนพังเป็นหลุมเป็นบ่อ ล่าสุดถูกน้ำฝนกัดเซาะเป็นหลุมขนาดใหญ่ รถจักรยานยนต์เกิดอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บมาแล้วจำนวนมาก เด็กนักเรียนไปโรงเรียนลำบาก โดยเฉพาะเวลาคนเจ็บป่วยกว่าจะเดินทางไปถึงมือหมอนั้นล่าช้ามาก บางรายต้องเสียชีวิตระหว่างทาง จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาดูแลแก้ปัญหาโดยเร่งด่วนด้วย
อย่างไรก็ตาม วันนี้ตนและชาวบ้านส่วนหนึ่งที่ทนรอไม่ไหวจึงได้ช่วยกันออกเงินไปจัดหา ซื้อปูน, หิน, ทราย มาซ่อมแซมถนนที่เป็นหลุมบ่อตลอดทั้งสาย โดยใช้แรงงานชาวบ้านและจิตอาสากว่า 100 คนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นไปก่อน ซึ่งถนนสายนี้เป็นเขตพื้นที่ติดต่อ 2 ตำบล ระหว่างตำบลสระพังกับตำบลบ้านหนองทุ่ม และสามารถเชื่อมเป็นทางลัดไปยังตำบลคำแคน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ได้อีกด้วย
ด้าน นายแสงทวี แสงทองดี อายุ 65 ปี ชาวบ้าน กล่าวว่า ชาวบ้านในหลายตำบลที่ใช้ถนนสายนี้สัญจรเป็นเส้นทางหลักได้รับความเดือดร้อนมานานนับ 10 ปี จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบลงมาช่วยเหลือชาวบ้านด้วย ซึ่งช่วงนี้เปิดเทอมแล้วลูกหลานนักเรียนต้องใช้ถนนสายนี้สัญจรไปโรงเรียนทั้งเช้า-เย็น และเป็นหน้าเก็บเกี่ยวข้าวชาวบ้านต้องใช้ลำเลียงผลผลิตออกสู่ตลาด แต่ปัจจุบันต้องอ้อมเปลี่ยนไปใช้ถนนอีกสายหนึ่งทำให้เสียค่าใช้จ่ายค่าน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น และเสียเวลาในการสัญจรมากขึ้น