นครปฐม - แม่เข้ารับศพลูกสาว สามี สุดเศร้าโดยมีกองทัพสื่อเฝ้า ปัดตอบคำถามยังทำใจไม่ได้ ก่อนเคลื่อนศพไปตั้งคู่ที่วัด ส่วนลูกเขยมือยิง อาการทรุดหนัก เนื่องจากสมองถูกทำลาย เพื่อนบ้านเผยฝ่ายชายโลกส่วนตัวสูง มีแต่รักภรรยามาก บ่นเครียดเมียป่วยกลัวรักษาไม่หาย
วันนี้ ( 16 มิ.ย.) เวลา 11.30 น.ที่ห้องเก็บศพ โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม นางรัศมี ทะนามศรี ได้มารับศพของนางสาวธัญญมาศ ทะนามศรี อายุ 29 ปี ลูกสาว และศพของนาวาตรีสัมพันธ์ ทะนามศรี อายุ 60 ปี สามี เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่วัดโพธิ์ลาดศรัทธาทำ อ.บางเลน จ.นครปฐม หลังจากทั้งคู่ถูกนายชัยพร เชาวนะกมล อายุ 32 ปี สามีของนางสาวธัญญมาศ ยิงโหดหน้าห้องตรวจสูตินารีเวช โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม และยิงตัวตายอาการสาหัสเมื่อเวลา 13.00 น. ของวันที่ 15 มิถุนายน 61 ที่ผ่านมา
โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีญาติมารอรับศพด้วยความสงบนิ่งและเงียบไม่มีการให้สัมภาษณ์ใดๆ กับกองทัพสื่อมวลชนที่เข้ามารอทำข่าวดังกล่าว หลังทำเอกสารเสร็จสิ้นได้เคลื่อนรถออกจากโรงพยาบาลศูนย์นครปฐมทันทีโดย นางรัศมีอยู่ในอาการโศกเศร้าอย่างหนัก
ส่วนที่หน้าห้องผู้ป่วยหนัก (I.C.U) พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจาก สภ.เมืองนครปฐม มาเข้าเวรยามที่หน้าห้องตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีนายชัยพร เชาวนะกมล นอนรักษาตัวหลังรับการผ่าตัดสมองและให้ยาปรับระดับความดัน แต่ช่วงเที่ยงเป็นต้นมาอาการทรุดหนักลงเรื่อยๆ อยู่ในขั้นวิกฤต ซึ่งทีมแพทย์ได้ให้การรักษาอย่างเต็มที่แต่เนื้อสมองถูกกระสุนปืนที่ยิงเข้าขมับทำลายจนเสียหายหนัก มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ โดยวันนี้ยังไม่มีญาติมาเฝ้าที่หน้าห้อง แต่ทราบว่า เมื่อวานมีมารดาและพี่ชาย มารับทราบข้อมูล และได้นำรถยนต์กลับไปตั้งแต่เมื่อวานนี้
ขณะที่หน้าบ้านพักทาวน์เฮาส์ 3 ชั้นครึ่ง ของนายชัยพร และ นางสาวธัญญมาศ ซึ่งเปิดเป็นสถานกวดวิชา ชื่อ Chez moi tutor ซึ่งเป็นธุรกิจที่ทั้งคู่ได้เปิดทำไว้ร่วมกัน ก่อนที่จะมาเกิดเหตุ ยังคงปิดเงียบ
ด้าน นางกานดา พรพินิจ อายุ 57 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน บอกว่า ช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจาก มีความสนิทสนมกับทั้งคู่ ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง เมื่อวานมีนักข่าวมาถามหลายคนก็บอกข้อมูลไป แต่ล่าสุดพบว่า เมื่อคืนมีพี่ชายของนายชัยพร มาเก็บของบางส่วนออกไปซึ่งได้ทักทายกัน 3-4 คำ แต่ไม่กล้าถามอะไรมากเพราะเข้าใจว่ากำลังตกในกับเหตุการณ์เช่นกัน
นางกานดาเผยอีกว่า ปกติ นายชัยพร นั้นก็จะอารมณ์ดีแต่มีโลกส่วนตัวสูง และหวงพื้นที่ส่วนตัวมาก โดยเฉพาะหน้าบ้าน จะเครียดถ้ามีคนมากลับรถหรือจอดรถหน้าบ้าน หากใครมาจอดก็จะเดินขึ้นบ้านชั้น 2 และ จะเทน้ำลงจากหลังคาใส่ทันที และจะไม่ชอบคนสูบบุหรี่ เพราะเปิดสถานกวดวิชา กลัวเด็กได้กลิ่นเหม็น
โดยที่หน้าบ้านก็จะหวงไม่ให้ใครเข้ามานั่ง โดยจะนำเอากระถางต้นไม้มากั้นทางไว้เป็นที่รู้กันของเพื่อนบ้าน และที่เห็นมา 5 ปี ทั้งคู่เป็นสามีภรรยาที่รักกันมาก ไม่เคยทะเลาะกันมาก่อน ซึ่งภรรยาเพิ่งคลอดลูก เมื่อวันที่ 27 เมษายน ชื่อน้อง วาเลน โดย นายชัยพรบอกว่า มาจากวาเลนไทน์
นางกานดา บอกอีกว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุวันเดียว นายชัยพร ได้มาบอกว่าเครียดเรื่องภรรยาป่วยหลังคลอด กลัวจะรักษาไม่หายและกังวลมา 4-5 วันหลังจากภรรยาได้กลับไปพักที่บ้านของพ่อแม่ ที่อำเภอบางเลน โดยแสดงออกให้เห็นว่าเหงา เพราะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่เรื่องมือที่ 3 ไม่มีแน่นอน เพราะเขารักกันมาก
นอกจากนี้ นางรัศมี แม่ของภรรยา ก็มาดูแลกันที่บ้านหลังนี้ตลอดไม่เคยมีท่าทีว่าจะทะเลาะกัน ส่วนเรื่องปืนไม่เคยรู้เลยว่าเคยพกมาก่อน เพื่อนบ้านหลายคนมานั่งคุยกันยังตกใจ ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้
นางกานดา บอกปิดท้ายว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นหลายคนแถวบ้านก็เคยมาคุยกันว่า นายชัยพรนั้นเป็นคน 2 บุคคลิก ดูเงียบแต่ก็มีความโกรธเกรี้ยว มักทำแบบลับหลังไม่ให้ใครรู้ว่ากำลังโกรธ ไม่แสดงออกต่อหน้าชัดเจน ตนเองรับฟังคำปรึกษาของครอบครัวนี้บ่อย รู้เพียงว่า นายชัยพร นั้นรักภรรยามาก ที่สุดคือเครียดกลัวภรรยาไม่หาย และอยากหาเงินมากๆ จะได้เลี้ยงดูภรรยากับลูกได้โดยไม่ต้องทำงาน
แต่โดยพื้นฐานบ้านนายชัยพร เป็นคนมีฐานะ ทางพ่อแม่เปิดร้านอะไหล่ใหญ่ในทางเข้าตัวเมืองนครปฐม รถก็ซื้อเงินสด บ้านกำลังผ่อน เรื่องเงินไม่น่าจะใช่ปัญหา ความเครียด คิดว่าการก่อเหตุ น่าจะมีอาการควบคุมอาการตัวเองไม่ได้จนเกิดเหตุสลด ซี่งถึงวันนี้ตนเองยังตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น