นครปฐม - ตำรวจภาค 7 นำกำลังสนธิตำรวจสืบสวนนครปฐม และท้องที่นครชัยศรี ตามรวบขบวนการลักรถจักรยานยนต์ ในพื้นที่ หลังเกิดเหตุรถหายหลายครั้ง สุดท้ายพบเป็นแก๊งเกิดใหม่ มี 2 เยาวชน ร่วมด้วย โดยจับกุมได้ 3 ใน 5 ราย สารภาพนำเงินไปเที่ยวและเสพยา เตรียมขายผลรวบขบวนการอีกครั้ง
วันนี้ (6 มิ.ย.) ที่ สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม พล.ต.ท. กฤษณ์ ทรัพย์เดช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อม ด้วย พล.ต.ต. คำรณ บุญเลิศ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พ.ต.อ.สีหเดช สระกอบแก้ว ผกก. สภ.นครชัยศรี จังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยชุดคลี่คลายคดี ร่วมกันแถลงผลการจับกุมขบวนการลักรถจักรยานยนต์รายใหญ่ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้หลายรายและมีของกลางหลายรายการ โดยเป็นขบวนการที่มีเยาวชนร่วมอยู่ในทีมงานด้วย
พล.ต.ท.กฤษณ์ ทรัพย์เดช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เผยว่า การจับกุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ สามารถจับกุมผู้ต้องหา 3ราย จากทั้งหมด 5 ราย นำทีมโดยนาย กิตติศักดิ์ หรือต่อ สมวงษ์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/1 ต.บ้านหลวง อ.ดอนตูม จ.นครปฐม และ 1 ใน 3 รายที่ถูกจับกุมเป็นเยาวนอายุ 14 ปี และมีผู้ที่ หลบหนีการจับกุม 2 ราย คือ นายศุภลักษณ์ หรือต้า อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่39 ม.4 ต.บ้านหลวง อ.ดอนตูม จ.นครปฐม และอีก คือ ด.ช.โอ๊ต (นามสมมติ)อายุ 13 ปี พร้อมด้วยของกลาง เป็นรถจักรยานยนต์ 9 คัน โครงรถจักรยานยนต์ 1 โครง
รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวว่า สำหรับการจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา ในพื้นที่ 4ตำบลในเขตอำเภอนครชัยศรี ประกอบด้วย ตำบลวัดละมุด ตำบลวัดศณีมหาโพธิ์ ตำบลบางพระ และตำบลแหลมบัว มีรถจักรยานนต์สูญหายเป็นจำนวนมาก โดยได่ส่งสายลับลงพื้นที่ และสืบทราบว่ามีผู้รับซื้อรถจักรยานยนต์ คันละ 3,500 บาท บริเวณ ต.บ้านหลวง อ.ดอนตูม จึงได้ส่งทีมหาข่าว
กระทั่งวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้มีประชาชนแจ้งมาว่ามีรถจักรยานยนต์ศูนย์หาย ที่บริเวณหมู่บ้านสวนขวัญ ม.5 ต.วัดละมุด ขณะลงไปเก็บดอกรักเพื่อจะนำมาขาย จึงได้สืบหาและคาดว่าน่าจะเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน ต่อมาจึงได้เข้าทำการตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 49ม.1 ต.บ้านหลวง ซึ่งเป็นบ้านพักของนายกิตติศักดิ์ หรือต้น สมวงษ์ ซึ่งสุดท้ายสารภาพว่าเป็นขบวนการลักรถจักรยานยนต์ โดยได้ก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ ที่พื้นที่ อ.ดอนตูม 9 ครั้งและ อำเภอบางเลนอีก 2 ครั้ง โดยจะเน้นรถที่ไม่ได้ล๊อคคอ และเสียบกุญแจทิ้งไว้ เป็นหลัก เพื่อนำไปจำหน่ายและชำแหละซากจำหน่าย ในราคาคันละ 2,000-3,000 บาท โดยเงินที่ได้โดยหลักจะนำมาเสพยาเสพติดและใช้ท่องเที่ยวในกลุ่ม จึงได้ขยายผล จับกุมผู้ต้องหา ซึ่งมีเยาวชนที่ถูกจับได้และยังหลบหนีดังกล่าว
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งข้อกล่าวหากับ ผู้ต้องหาส่งตัวดำเนินคดีทางกฎหมาย ส่วนเยาวชนได้ประสานผู้ปกครองให้มารับทราบและส่งตัวเข้าสถานพินิจ ส่วนผู้ที่หลบหนี อีก 2 รายซึ่งเป็นเยาวชน อีก 1 คนคาดว่าจะติดตามตัวได้ไม่ยากและถือเป็นการจับกุมทลายแก๊งที่เพิ่งเริ่มเติบโต รวมถึงจะขยายผลไปยังกลุ่มที่นำยาเสพติดมาจำหน่ายในพื้นที่ต่อไปด้วย