เอาให้ถึงที่สุด! เถ้าแก่เต็นท์รถนครสวรรค์ลากซากรถร้องถึง สตช.-สำนักนายกฯ

นครสวรรค์ - อยากรู้ว่าเขาเอาซากรถไปชำแหละทำไม..สองสามีภรรยาเถ้าแก่เต็นท์รถนครสวรรค์ลากซากรถเข้ากรุงเทพฯ จนได้ ตามร้องขอความเป็นธรรมถึง สตช.-สำนักนายกฯ ขีดเส้น 15 วันไม่ได้คำตอบยื่นฟ้องศาลปกครองต่อ

วันนี้ (5 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นายสมพงษ์ ชำนาญไพร อายุ 57 ปี นางอำนวยมุกต์ดา ชำนาญไพร อายุ 60 ปี สองสามีภรรยาเถ้าแก่เต็นท์รถ อยู่บ้านเลขที่ 117 หมู่ 5 ต.หนองกรด อ.เมืองนครสวรรค์ ที่เคยนำรถไปฝากไว้ที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ตั้งแต่ปี 58 แต่สุดท้ายถูกชำแหละเหลือแต่ซาก จึงนำซากรถมาตั้งริมถนนสายเอเชีย พร้อมขึ้นป้ายร้องขอความเป็นธรรม ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

นายสมพงษ์ได้ออกมาเปิดเผยอีกครั้งว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 61 ที่ผ่านมาได้ลากซากรถยนต์คันดังกล่าวรอบเมืองปากน้ำโพ และไปที่ สภ.เมืองนครสวรรค์เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม ซึ่งได้พบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้ให้คำแนะนำ พร้อมจะชี้แจง แต่ให้นำป้ายเรียกร้องลงก่อน สร้างความไม่พอใจ จึงได้ลากซากรถไปร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมฯ ที่ศาลากลางจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม พร้อมด้วย พ.ต.อ.โกมินทร์ สิงห์ขาว รอง ผบก.ภ.นครสวรรค์ และชุดสืบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ร่วมหารือ

นายสมพงษ์บอกว่า วันดังกล่าวตนได้นำเอกสารรถยนต์ที่มีปัญหา ทั้งภาพถ่าย คลิปวิดีโอ หารือกับทางเจ้าหน้าที่ และได้ลงบันทึกประจำวันไว้ด้วย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าขอเวลาตรวจสอบเพื่อให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย หลังจากนั้นอีก 2 วันก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์มาติดต่อขอเจรจา แต่ก็ไม่ได้ข้อยุติ

กระทั่งวันที่ 28 พ.ค. ตนพร้อมภรรยาจึงได้ว่าจ้างรถนำซากรถคันดังกล่าวเข้ากรุงเทพฯ ก่อนนำไปแห่เรียกร้องขอความเป็นธรรมจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะนำซากรถเดินทางไปที่สำนักนายกรัฐมนตรีในวันเดียวกันด้วย ซึ่งทั้งทาง สตช.และเจ้าหน้าที่สำนักนายกรัฐมนตรีได้รับเรื่องร้องเรียนไว้แล้ว โดยทางเจ้าหน้าที่ของสำนักนายกรัฐมนตรีที่รับเรื่องบอกกับตนว่า ขอเวลา 15 วันในการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

นายสมพงษ์กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม หากครบกำหนด 15 วันแล้วยังไม่มีความคืบหน้า ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ตนจะยื่นฟ้องศาลปกครองต่อไป

“ผมอยากทราบว่าเขาเอารถผมไปชำแหละทำไม”