นครสวรรค์ - สองผัวเมียชาวนครสวรรค์สุดทน..ลากซากปิกอัพตั้งริมถนนเอเชีย-ขึ้นป้ายประจานขอความเป็นธรรม หลังรถของกลางหายจากโรงพักกองเมืองเข้าอู่ใหญ่ไม่พอ ถูกชำแหละเหลือแต่ซากซ้ำ จ่อลากวนตลาดปากน้ำโพ-สตช.
นางอำนวยมุกต์ดา ชำนาญไพร อายุ 57 ปี และนายสมพงษ์ ชำนาญไพร อายุ 60 ปี สองสามีภรรยาอยู่บ้านเลขที่ 117 หมู่ 5 ต.หนองกรด อ.เมืองนครสวรรค์ ได้ช่วยกันลากซากรถกระบะมาตั้งไว้บริเวณริมถนนสายเอเชีย พร้อมขึ้นป้ายร้องเรียนด้วยข้อความว่า “รถยนต์คันนี้เป็นของกลางอยู่ที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ หายไปจากโรงพัก เครื่องกับเกียร์หายไปหมด..”
เมื่อสอบถามถึงสาเหตุที่ขึ้นป้ายประท้วงสองสามีภรรยาได้เล่าเรื่องทั้งน้ำตาว่า ตนมีอาชีพซื้อขายรถมือสองโดยตั้งเต็นท์รถอยู่หน้าบ้านเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2558 ตนและภรรยาได้ไปประมูลรถที่เกิดอุบัติเหตุมาจากบริษัทสหการประมูล จำกัด สาขาปทุมธานี เป็นรถยนต์กระบะ มิตซูบิชิ สีเทา ทะเบียน บธ 201 สระแก้ว จำนวน 1 คัน เพื่อนำมาซ่อมขาย
ต่อมามีนายมานพ ชื่นอยู่ ได้มาติดต่อขอซื้อรถคันดังกล่าว โดยจ่ายเงินบางส่วน พร้อมนัดชำระส่วนที่เหลือในเดือนมีนาคม 2558 แต่เมื่อถึงกำหนดนายมานพไม่นำเงินส่วนที่เหลือมาชำระ ตนจึงติดต่อเจ้าหน้าที่ให้ไปนำรถคันดังกล่าวมาไว้ที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ เพื่อให้นายมานพมาชำระหนี้ที่เหลือ แต่นายมานพก็ยังไม่นำเงินมาชำระ จึงได้จอดรถไว้ที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ นานนับปี
หลังจากนั้นนายมานพได้มาติดต่อพร้อมจะนำเงินส่วนที่เหลือมาให้ จึงนัดหมายไปตกลงกันที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ แต่ปรากฏว่ารถคันดังกล่าวไม่อยู่ที่โรงพักแล้ว กลับถูกนำไปจอดที่อู่แห่งหนึ่งในนครสวรรค์ นอกจากนี้ เครื่อง-อะไหล่รถได้หายไปทั้งหมด เหลือเพียงแต่ซากรถทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า
นายสมพงษ์กล่าวอีกว่า ตนพร้อมภรรยาพยายามติดต่อร้อยเวรในคดีนี้ แต่ได้รับการบ่ายเบี่ยงมาตลอด ร้องเรียนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาแล้วแต่เรื่องยังไปไม่ถึงไหน จึงตัดสินใจนำรถออกมาตั้ง พร้อมเขียนป้ายร้องเรียน หวังให้คนที่ผ่านไปมาให้ความสนใจ พร้อมร้องขอความเป็นธรรม
“ผมจะลากรถคันนี้วนไปในตลาดปากน้ำโพ และลากไปร้องยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติในเร็วๆ นี้ด้วย และขอความเป็นธรรมกับทีมข่าวช่วยเป็นปากเสียงให้ผมกับภรรยาที่ถูกรังแกในครั้งนี้ด้วย”