นครสวรรค์ - ยังไร้ข้อยุติ กรณีรถในโรงพักกองเมืองนครสวรรค์เหลือแต่ซาก..สองสามีภรรยาลากซากปิกอัพตามร้องถึงโรงพัก-ศูนย์ดำรงธรรมฯ ยืนยันไม่รับเคลียร์ ขอเอาคนผิดมาลงโทษ ถามใช้สิทธิ์อะไรเอารถในโรงพักไปถอดอะไหล่
ความคืบหน้ากรณี นายสมพงษ์ ชำนาญไพร อายุ 57 ปี นางอำนวยมุกต์ดา ชำนาญไพร อายุ 60 ปี สองสามีภรรยาเถ้าแก่เต็นท์รถ อยู่บ้านเลขที่ 117 หมู่ 5 ต.หนองกรด อ.เมืองนครสวรรค์ ที่เคยนำรถไปฝากไว้ที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ตั้งแต่ปี 58 แต่สุดท้ายถูกชำแหละเหลือแต่ซาก จึงนำซากรถมาตั้งริมถนนสายเอเชีย พร้อมขึ้นป้ายร้องขอความเป็นธรรม ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
(อ่านเรื่อง “แกะเส้นทางรถเจ้าปัญหาก่อนเหลือแต่ซาก ฟังทุกฝ่ายทั้งเถ้าแก่เต็นท์รถ-ช่างแดง-ตร.ปากน้ำโพ” ประกอบ)
ต่อมานายสมพงษ์ นางอำนวยมุกต์ดา สองสามีภรรยา ได้ตัดสินใจลากซากรถกระบะ สีเทา ยี่ห้อมิตซูบิชิ หมายเลขทะเบียน 201 สระแก้ว ไปที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครสวรรค์ เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อร้องขอความเป็นธรรมจากผู้ว่าราชการจังหวัดฯ และตำรวจ
ด้าน พ.ต.ท.โกมินทร์ สิงห์ขาว รอง ผบก.ภ.นครสวรรค์ กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า กรณีที่นายสมพงษ์ นางอำนวยมุกต์ดาได้นำซากรถรถยนต์มาร้องเรียนขอความเป็นธรรม ขอความยุติธรรม และต้องการหาคนรับผิดชอบนั้น ทางตำรวจได้รับเรื่องไว้แล้ว พร้อมตรวจสอบหาข้อเท็จจริง ซึ่งต้องใช้เวลาในการสอบหาพยานหลักฐานให้ชัดเจนเพื่อหาผู้ที่กระทำผิดมาดำเนินคดีมาตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่นางอำนวยมุกต์ดาเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ที่ต้องลากซากรถยนต์แห่ไปศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครสวรรค์ และโรงพัก สภ.เมืองนครสวรรค์ เพื่อขอความเป็นธรรม และอยากให้หาคนทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย ซึ่งมีประเด็นที่ยังติดใจก็คือ 1. ร้อยเวรใช้สิทธิ์อะไร-ข้อไหนเอารถไปถอดอะไหล่ ซึ่งต้องมีคนรับผิดชอบ 2. กรณีทางเจ้าหน้าที่แถลงข่าวไม่เป็นความจริง ตนเสียหาย และ 3. กรณีการจำนำทองปลอม ที่มีหมายเรียกมาถึงตนนั้น ถามว่าลายเซ็นปลอมเอามาจากไหน
“ส่วนจะมาพูดว่าจะขอเคลียร์ ให้เงินทองชดใช้นั้น ไม่มีทางตกลง ต้องการหาคนรับผิดชอบเท่านั้น ฉันติดใจ ทำไมรถฉันเหลือแต่โครง อะไหล่หายหมด และเรื่องการจำนำทองปลอมที่มีหมายเรียกมาหาฉัน 2 เรื่องนี้ ฉันรับไม่ได้ และขอย้ำต้องการเอาคนผิดมาลงโทษให้ได้”
