นครปฐม - สองหนุ่มสาว เดินหน้าร้องผู้ว่าฯ รอบที่ 3 ขอความเป็นธรรมหลังซื้อบ้านหรู 5 ล้าน หมู่บ้านอยู่สบาย 8 กลางเมืองนครปฐม แต่ถูกโจรขึ้นบ้านสูญ 10 ล้านบาท ไม่มีการช่วยประสานตามคนร้าย ซ้ำเจอบ้านไม่ได้มาตรฐานตามแบบ ล่าสุดถูกเจ้าของโครงการแจ้งจับข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา วอนรัฐช่วยตรวจสอบพิรุธการจัดสรรที่ดิน
วันนี้ (31 พ.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดนครปฐม นางสาว ภาปณัฐ สุขอนันต์ (อี๊ฟ) อายุ 34 ปี และ นายเจษฎา หาริแสง (บอม) อายุ 32 ปี สองสามีภรรยา อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านอยู่สบาย 8 เลขที่ 59/525 หมู่ 3 ต.ห้วยจระเข้ อ.เมือง จ.นครปฐม ได้เดินทางเข้าร้องเรียนเรื่องปัญหาในการซื้อบ้านจัดสรร แต่ได้รับบ้านที่ไม่ได้มาตรฐานจากที่ตกลงก่อนซื้อในโครงการ มูลค่า 5 ล้านบาท
โดยเริ่มเข้าอาศัยไม่นาน ยังถูกโจรขึ้นบ้านยกเค้า สูญทรัพย์สินไปกว่า 10 ล้านบาท โดยได้เตรียมเอกสารเพื่อขอพบกับ นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม แต่ติดภารกิจจึงได้มอบหมายให้ นางสาววิชญศากรณ์ วีระพันธุ์ ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครปฐม และนายอิศรา สุรภาพ เจ้าหน้าที่สืบสวนสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดนครปฐม เข้ารับเรื่องร้องทุกข์และติดตามความคืบหน้าของกรณีดังกล่าว
นางสาว ภาปณัฐ สุขอนันต์ ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน เปิดเผยความรู้สึกต่อผู้สื่อข่าวพร้อมนำเอกสารต่าง ๆ มาชี้แจงว่าการเข้ามาขอความเป็นธรรมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้วโดยเริ่มเริ่มจากตนเองและสามี ได้ซื้อบ้านกับโครงการหมู่บ้านอยู่สบาย 8 ต.ห้วยจระเข้ อ.เมือง จ.นครปฐมดำเนินการบริหารโดย บริษัท พหุธน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เพื่อใช้สำหรับพักอาศัยหลังจากได้รับส่งมอบบ้านเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2559 และได้เข้าอาศัยเมื่อประมาณเดือนสิงหาคม ปี 60
ต่อมา เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2561 ได้มีโจรบุกขึ้นโจรกรรมทรัพย์สิน ทำให้มีทรัพย์สินสูญหายไป 12 รายการ รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท หนึ่งในนั้นมี พระกริ่งวัดสุทัศน์ ปี 2497 ซึ่งมีการผลิตมาเพียง 35 องค์ และพระเลี่ยมทอง หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม อยู่ด้วย และหลังจากมีการเกิดเรื่องก็ไม่ได้รับการประสานงานหรือการช่วยเหลือจากโครงการฯ ทั้งที่จ่ายค่าส่วนกลางไปปีแรก 3หมื่นกว่าบาทไปล่วงหน้าแล้ว
จากนั้นวันที่ 2 เมษายน 2561 จึงได้ประสานยังสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค แจ้งวัฒนะไป ซึ่ง ได้สอบถามถึงข้อสงสัยด้านเอกสารเกี่ยวกับบ้านได้ไม่ครบตามสิทธิประโยชน์ของผู้ซื้อ จึงมีการติดตามเอกสารและการซ่อมแซมบ้านที่เกี่ยวข้องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายของโครงการหมู่บ้านอยู่สบาย 8 มาโดยตลอดแต่ก็ขาดคำชี้แจงที่ชัดเจน
รวมถึงพบปัญหาระหว่างอยู่อาศัยหลายเรื่อง จึงจำให้ต้องเข้าไปทำเรื่องเพื่อขอคัดสำเนาแบบแปลนบ้านที่ อบต.ห้วยจระเข้ ซึ่งเป็นหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ เพื่อจะตัดใจขายบ้านเพื่อหนีปัญหา แต่กลับ พบว่า แบบแปลนบ้าน กับตัวบ้านจริงที่ซื้อมาจากโครงการหมู่บ้านอยู่สบาย 8 ไม่ตรงตามแบบแปลนและมีการโฆษณาเกินจริง หลายรายการ จึงเดินทางมาร้องทุกข์กับสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดนครปฐมอีกครั้งเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 61 ที่ผ่านมา
นางสาวภาปณัฐ บอกว่า ปัจจุบันตนเองก็ยังรอเอกสารผลการสรุปจากสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดและฝ่ายโยธาธิการ ตลอดจน สาธารณูปโภคน้ำประปาที่ ยื่นร้อง สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดนครปฐมไว้นั้น กว่า 3 เดือน ยังไม่สามารถเข้าหรือติดตั้งภายในโครงการ และบ้านตนเองที่อาศัยนั้นมีปัญหา 6-7 เรื่อง ที่พบโดยไม่เคยได้รับการแก้ไขใดๆ มีเพียงตัวแทนวนเวียนเข้ามาพูดคุยและบอกว่าไม่มีอำนาจตัดสินใจในการแก้ไข
ล่าสุด เมื่อสัปดาห์ก่อน ตนเองและสามี นายเจษฎา ได้รับหมายเรียกจาก สภ.เมืองนครปฐม ซึ่งบริษัทพหุธน ดีเวลล๊อปเม้นท์ จำกัด โดยนายพล ไทยอ่อน ได้แจ้งข้อกล่าวหา กระทำการหมิ่นประมาท โดยหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา โดยได้ให้ไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ในวันนี้ (31 พ.ค.) จึงได้ตัดสินใจกลับเข้ามาร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ที่ศูนย์ดำรงธรรรม เพื่อขอเอกสาร การตรวจสอบจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะนำไปเป็นหลักฐานแสดงต่อพนักงานสอบสวน
โดยวันนี้ ได้เพิ่มการร้องเรียนและสอบถาม อีก 6 ประเด็น เช่น โครงการฯขอยื่นจัดสรรที่ดินผ่านและได้รับใบอนุญาตมาได้อย่างไร ในเมื่อสาธารณูปโภคยังไม่พร้อมสำหรับทางเดินของน้ำประปาเพื่อติดตั้ง ในโครงการสำหรับผู้บริโภค ที่ซื้อบ้านกับโครงการหมู่บ้านอยู่สบาย นานกว่า 2 ปี และมีการจัดสรรที่ดินจากหน่วยงานภาครัฐให้กับเจ้าของโครงการได้ถูกต้องหรือไม่ เพื่อความกระจ่าง เพราะตนเองต้องการขายบ้านก็พบว่าแบบไม่ตรง ขายก็ไม่ได้ และหากใครมาซื้อต่อก็จะต้องมาเจอปัญหาแบบที่ตนเองกำลังปัญหาอย่างหนักในตอนนี้
นางสาวภาปณัฐ ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของบ้านที่มีปัญหาขณะนี้ หลังคาบ้าน ซึ่งมีช่องแสงลอดผ่าน ฝนสาดเข้ามา จนฝ้าเพดานมีคราบน้ำ นอกจากนี้ ก็จะมีระบบไฟฟ้า ที่ไม่ตอบโจทย์การใช้งานจริง รวมถึงสเป๊กของราวบันไดที่ไม่สมบูรณ์ งานเลย์เอ้าท์ห้องครัว ที่ไม่ตรงตามที่โฆษณาไว้ และสุดท้าย คือ เรื่องปลวก ซึ่งโครงการระบุว่าจะมีการฉีดปลวกให้ ปี ละ 4 ครั้ง แต่กลับพบมีปลวกขึ้นที่ท่อฉีดปลวก จึงไม่มั่นใจว่ามีการฉีดปลวกจริงหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยได้รับเอกสารการฉีดปลวกของทางโครงการ และไม่เคยได้มีการเซ็นเอกสารแต่อย่างใด มาแสดง ยิ่งในส่วนที่เคยสอบถามเกี่ยวกับเรื่องของการรักษาความปลอดภัยว่ามีการว่าจ้างบริษัทใด มีการดำเนินการอย่างไร ถึงเกิดกรณีการบุกขึ้นยกเค้าทรัพย์สินที่บ้านของตนก็ไม่มีการนำเอกสารที่ชัดเจนมาชี้แจง
" วันนี้บอกเลยว่านอนยังผวาว่าจะมีโจรปีนมาที่บ้านอีกหรือไม่ เพราะคนร้ายยังจับตัวไม่ได้ แต่ตำรวจก็ยังแจ้งกลับมาว่ายังติดตามคนร้ายให้ตลอด"
นางสาวปณัฐ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ ยอมรับว่ารู้สึกผิดหวัง และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเนื่องจากบ้านหลังนี้ มีราคาสูงถึงหลังละประมาณ 5 ล้านบาท รวมตกแต่ง เกือบ 6 ล้านบาท โดยเป็นเงินที่หามาจากการทำงาน และตั้งใจจะใช้ที่นี่เป็นที่พักอาศัย แต่กลับต้องมาเจอปัญหา โดยที่เจ้าของโครงการไม่เคยมาพูดคุยในเรื่องที่เกิดขึ้น
ส่วนหนึ่งก็อยากให้หลายฝ่ายเข้าใจว่า ที่ออกมาเรียกร้อง ไม่ได้ต้องการเงินทอง แต่อยากให้เป็นกรณีตัวอย่าง และต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีมาตรการเข้มงวดและตรวจสอบโครงการหมู่บ้านทุกแห่ง เพื่อไม่ให้กรณีแบบนี้เกิดขึ้น ส่วนตนก็คงต้องเดินหน้าเรียกร้องสิทธิของตน เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม
“อยากให้เข้าใจว่าการที่เราจะเก็บเงินซื้อบ้านหลังละ 5 ล้าน ต่อเติมไปก็เป็น 6 ล้านกว่าบาท นั้น ทุกคนที่ซื้อบ้านก็อยากได้บ้านที่ดี และมีการดูแลที่ทั่วถึงเหมาะสมกับราคา เราสองคนเหนื่อยมา 5-6 ปี เพื่อทำงานเก็บเงินซื้อบ้านหลังนี้ได้ แต่โครงการนี้ ได้ทำลายทุกอย่างของเราลงไปทั้งหมด เราก็อยากจะถามว่าจะรับซื้อกลับ จะรับชดใช้หรือไม่ก็เท่านั้น แต่คำตอบคือไม่มี ก็เลยไม่รู้จะทำอย่างไร สุดท้ายคือเลือกแจ้งความเรากลับ เราในฐานะลูกค้าจะรู้สึกอย่างไร
ขณะนี้ มีลูกบ้านหลายคนอยากออกมาต่อสู้ด้วยแต่เค้าไม่รู้กฎหมาย แต่จากวันนี้มีผู้เสียหายได้เข้ามาพูดคุยกับเรามากขึ้น และหลายคนกำลังจะรวบรวมเรื่องเพื่อเข้าพบกับ ปปช. จังหวัดนครปฐม เพื่อขอความเป็นธรรมต่อไป คาดว่าจะมีอีกหลายราย” นางสาวภาปณัฐ กล่าว
นายอิสรา สุรภาพ เจ้าหน้าที่สืบสวน สคบ. กล่าวว่า วันนี้ได้นำเอกสารที่ ทางผู้ร้องเรียนได้สอบถามมาในครั้งแรก จากสำนักงานโยธาธิการจังหวัดนครปฐม ซึ่งได้เข้าไปตรวจสอบแล้ว โดยพบว่าโครงสร้างหลักนั้นได้มาตรฐาน แต่เรื่องของส่วนประกอบคือสิ่งที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยหลักเจ้าของโครงการจะต้องแก้ไขให้กับลูกค้า แต่ขณะนี้ทางลูกค้าแสดงเจตนาไม่เจรจาและจะฟ้องร้องเอาผิดแล้ว ก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ
ส่วนเรื่องของข้อสงสัยเพิ่มเติมที่ยื่นเข้ามาวันนี้คือการปล่อยให้มีการจัดสรรที่ดินเพื่อการทำโครงการหมู่บ้านจัดสรรนั้น จะส่งหนังสือร้องเรียนที่ยื่นมาไปให้สำนักงานที่ดินจังหวัดนครปฐม เป็นผู้ทำหนังสือมาชี้แจงให้ทราบต่อไป