แพร่ - พระนักต่อสู้ด้านสิ่งแวดล้อมเรียกร้องผู้ว่าฯ แพร่บรรจุยุทธศาสตร์ดึงประชาชนร่วมแก้ปัญหานายทุน-ชาวบ้านบุกรุกผืนป่ารอขาย ก่อนขบวนการทำลายป่ารุกหนักทั้งภาคเกษตร-อุตสาหกรรม เสี่ยงเกิดภัยพิบัติน้ำป่าถล่มซ้ำรอยปี 44
หลังชาวบ้านปางงุ้น หมู่ 6 ต.สรอย อ.วังชิ้น จ.แพร่ และใกล้เคียงกว่า 300 คน ร่วมกันทำพิธีเซ่นไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์-สืบทอดประเพณีไหว้ขุนโด หรือโด่แม่อาง จุดบั้งไฟขอฝนบริเวณสันอ่างเก็บน้ำห้วยแม่อางบ้านปางงุ้น ต้นน้ำของแม่น้ำสรอยที่ไหลจากทางใต้ของจังหวัดแพร่ขึ้นเหนือไปลงแม่น้ำยม ที่ถือปฏิบัติต่อเนื่องกันมาถึง 118 ปี เมื่อวันวิสาขบูชาที่ผ่านมา เพื่อระลึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในขุนเขาที่ช่วยปกปักรักษาผืนป่าและผู้คนจนถึงปัจจุบันแล้ว
พระฐาปนพงษ์ ฐานิสสโร รักษาการเจ้าอาวาสวัดปางมะโอ หมู่ 12 ต.แม่พุง อ.วังชิ้น จ.แพร่ ที่เข้าร่วมพิธีด้วยกล่าวว่า จุดดังกล่าวถือเป็นลุ่มน้ำสำคัญ ถ้าไม่ช่วยกันรักษาภัยพิบัติจะตามมา เช่นในปี พ.ศ. 2544 ที่ลุ่มน้ำสรอยแห่งนี้มีน้ำป่าทำให้ประชาชนเสียชีวิตไปกว่า 40 ศพ
ปัญหาการบุกรุกที่ป่าเพื่อพัฒนาเป็นที่ทำกิน และขายให้นายทุน รวมทั้งการใช้สารเคมีเกษตรถือเป็นเรื่องใหญ่ที่คนทั้งลุ่มน้ำต้องช่วยกัน ขณะที่ศรัทธาชาวบ้านปางมะโอกำลังแก้ปัญหาที่ดินที่ถือครองมาหลายชั่วอายุคน แต่ถูกกฎหมายป่าไม้กำหนดแนวเขตทับที่ทำกิน พร้อมกับสัญญาของชาวบ้านจะเลิกใช้สารเคมีโดยเด็ดขาด
แต่ชุมชนบ้านปางมะโอเป็นพื้นที่รับน้ำสรอย อยู่ในช่วงกลางน้ำค่อนไปทางปลายน้ำก่อนลงแม่น้ำยม จึงหลีกเลี่ยงสารเคมีไม่ได้ ถ้าทางต้นน้ำยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาการบุกรุกทำการเกษตรและอุตสาหกรรม
พระฐาปนพงษ์กล่าวด้วยว่า การจะแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม และปกป้องผืนป่าต้นน้ำของลุ่มน้ำสรอย และลุ่มน้ำอื่นๆ จังหวัดแพร่ จะต้องมียุทธศาสตร์การทำงานด้านสิ่งแวดล้อมที่เป็นรูปธรรม เดิมทีนั้น นางพงษ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้กำหนดยุทธศาสตร์ทางออกของปัญหาในจังหวัดแพร่แพร่ไว้ 3 ประเด็น คือ ประกาศสงครามกับขยะ ประกาศสงครามกับอุบัติเหตุ และประกาศสงครามกับยาเสพติด น่าจะเพิ่มยุทธศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อม คือการปราบผู้มีอิทธิพลด้านทรัพยากรป่าไม้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากประชาชนในหลายหมู่บ้านของ อ.วังชิ้น ตื่นตัวร่วมกันปกป้องพื้นที่ป่าไม้และที่ทำกินของตนเอง มีการร้องเรียนถึงการบุกรุกที่ดินป่าไม้โดยนายทุนเพิ่มขึ้น ล่าสุดมีการย้ายผู้บริหารระดับสูงของป่าสงวนแห่งชาติแม่สรอยเข้าไปประจำในสำนักงานในจังหวัดแพร่ เพื่อทำการสอบสวนติดตามผู้บุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติแม่สรอย
หลังนายพงษ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจยึดพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกตามคำร้องเรียนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบมีพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่สรอย หมู่ที่ 6 ต.วังชิ้น อ.วังชิ้น จ.แพร่ ถูกบุกรุกแผ้วถางเพื่อทำสวนยางประมาณ 10 ไร่ ค่าเสียหายรัฐประมาณ 716,564 บาท และพบไม้กระยาเลย (ไม้ติ้ว) ถูกตัดทิ้งไว้จำนวน 10 ท่อน ปริมาตร 0.10 ลบ.ม. และพบของกลางเลื่อยโซ่จำนวน 1 เครื่อง