xs
xsm
sm
md
lg

บาปหนา! แฉแผนป้ายสีพระนักพัฒนาแพร่ ยัดข้อหารีดไถจนโดน ตร.ตามสอบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


แพร่ - ชาวบ้าน-กรรมการวัดฮือปกป้อง พร้อมแฉเบื้องหลังแผนป้ายสี “พระนักพัฒนา” ยัดข้อหารีดไถเงินชาวปางมะโอ-วังชิ้น แลกช่วยสางปัญหาที่ดินจนโดนตำรวจตามสอบถึงวัด

พระฐาปนพงษ์ ฐานิสสโร รักษาการเจ้าอาวาสวัดปางมะโอ ต.แม่พุง อ.วังชิ้น จ.แพร่ แกนนำผลักดันแก้ปัญหาแนวเขตป่าไม้ทับที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 ในหมู่บ้านนับ 1,000 ไร่ ทำให้ชาวบ้านที่ทำสวนสักตามนโยบายส่วนราชการแล้วตัดขายไม่ได้ จนเริ่มได้รับการแก้ไขจากทางราชการอยู่ในขณะนี้ และระหว่างผลักดันแก้ปัญหายังชักชวนชาวบ้านปางมะโอ หยุดใช้สารเคมี เดินหน้าทำการเกษตรแบบอินทรีย์แบบ 100% ทั้งหมู่บ้านนั้น

ล่าสุดกลับมีผู้ร้องเรียนต่อหน่วยงานราชการในจังหวัดแพร่เมื่อ 29 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า พระฐาปนพงษ์เป็นผู้ที่ลงมือเรียกเก็บเงินชาวบ้านเพื่อแลกกับการออกเอกสารสิทธิ และรุ่งขึ้น (30 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.วังชิ้น จ.แพร่ ก็เดินทางไปสอบสวนพระฐาปนพงษ์ ฐานิสสโร รักษาการเจ้าอาวาสวัดปางมะโอ ทันที นอกจากนั้นยังมีตำรวจสันติบาลเข้าไปติดตามหาข้อเท็จจริงตามเบาะแสการร้องเรียนดังกล่าว แต่ยังไม่สามารถดำเนินคดีใดๆ ได้

ขณะที่วันนี้ (1 พ.ค.) ชาวบ้านปางมะโอ และคณะกรรมการหมู่บ้านที่ทราบข่าวต่างออกมารวมตัวอยู่ที่วัดกันตั้งแต่เช้าเพราะหวั่นว่าพระจะมีอันตราย หรือถูกจับกุม เนื่องจากเห็นว่าถ้าขาดพระฐาปนพงษ์ไปชาวบ้านจะขาดที่พึ่งในการทำงานทันที

นายวิชัย ศิริพงษ์พาณิชย์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85/1 หมู่ 12 บ้านปางมะโอ หนึ่งในคณะกรรมการแก้ปัญหาที่ดินบ้านปางมะโอ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากความเดือดร้อนของชาวบ้านในการเรียกร้องสิทธิในที่ทำกิน ไม่ใช่เกิดจากพระ เมื่อพระเข้ามาช่วยก็ทำให้เห็นทางไปสู่ความสำเร็จเร็วขึ้น โดยเฉพาะการสอบสวนสิทธิที่ดินเพื่อให้ถูกกฎหมายระหว่างแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติกับแนวเขตปฏิรูปที่ดิน ซึ่งถ้าแนวเขตชัดเจน การทำการเกษตรก็จะสะดวกขึ้น เกษตรกรที่ปลูกสวนป่าไม้สักจะสามารถตัดจำหน่ายได้ตามกฎหมาย

นอกจากนี้ พระยังชวนชาวบ้านที่เข้าร่วมโครงการหยุดใช้สารเคมีและเข้าสู่การทำเกษตรอินทรีย์ ไม่เห็นว่าพระจะหาผลประโยชน์จากชาวบ้านตรงไหน ที่ดินของพระก็ไม่มี

ส่วนการเรียกเก็บเงินลงขันกันแปลงละ 100 บาทนั้น คณะกรรมการแก้ปัญหาที่ดินได้หารือกันว่า การแก้ปัญหาต้องเดินทางไปติดต่อในหลายแห่งต้องใช้เงิน มีหน่วยราชการผู้หลักผู้ใหญ่เข้ามาในหมู่บ้านอย่างต่อเนื่องช่วยชาวบ้านแก้ปัญหาโดยเฉพาะข้าราชการที่เข้ามาทำงาน ชาวบ้านต้องให้การต้อนรับ จึงได้คิดเรี่ยไรเงินเป็นกองกลางสำหรับใช้จ่าย ลำพังวัดคงไม่มีเงินพอรับรองผู้คนที่เข้ามาช่วยจำนวนมากและใช้เวลายาวนาน

“มติของคณะกรรมการมีข้อเสนอให้เก็บเงินจากเจ้าของที่ดินที่เข้ามาสู่การแก้ปัญหา โดยมีการเก็บเงินจากเจ้าของที่ดินผู้เข้าร่วมโครงการแปลงละ 100 บาทไว้เป็นทุนในการดำเนินงานต่อสู้ และดูแลข้าราชการที่เข้ามาช่วย ส่วนใหญ่เป็นค่าอาหาร เมื่อเงินหมดก็จะช่วยกันอีก เพราะทุกคนไม่มีทุนในการดำเนินงาน แม้แต่วัดเองก็ไม่มีเงินที่จะบริการประชาชนจำนวนมากได้”

พระฐาปนพงษ์กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงเป็นการกุข่าว และร้องเรียนเพื่อดิสเครดิตกระบวนการทำงานในหมู่บ้านโดยเฉพาะพระและกรรมการแก้ปัญหาที่ดินที่กำลังทำงานร่วมกับทางราชการอยู่ในขณะนี้ ซึ่งเป็นกลุ่มไม่หวังดี กลุ่มที่เสียประโยชน์ รวมทั้งกลุ่มข้าราชการที่ต้องการผลงาน อาจรวมไปถึงกลุ่มการเมืองบางพรรคที่ไม่ต้องการให้ประชาชนได้รับการแก้ปัญหาโดยปราศจากนักการเมืองเข้ามาร่วม

“กรรมการฯ ได้สืบสวนแล้วพบว่าคนที่กุเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นคนในหมู่บ้านที่เป็นสายของกลุ่มอิทธิพล ซึ่งชาวบ้านทั้งหมู่บ้านเข้าใจดีจึงเข้ามาช่วยปกป้องอาตมา และสิ่งที่ยิ่งใหญ่ไปกว่านั้น การแก้ปัญหาบ้านปางมะโอเมื่อเสร็จสมบูรณ์ก็จะเป็นอานิสงส์เป็นตัวอย่างให้แก่การแก้ปัญหาของเกษตรกรทั้งประเทศด้วย”

สำหรับปัญหาที่ดินทับซ้อนที่ทำกินและที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ ปัญหาการทำสวนป่าแล้วไม่สามารถตัดได้ตามกฎหมาย การฟื้นฟูป่าไม้ต้นน้ำของชุมชน รวมถึงการทำการเกษตรแล้วไม่มีตลาดรองรับของชาวปางมะโอ อ.วังชิ้น จ.แพร่ ขณะนี้กำลังได้รับการช่วยเหลือจากนายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมีกำหนดเดินทางมาดูความคืบหน้า ทั้งการฟื้นฟูเกษตรอินทรีย์-การแก้ปัญหาที่ดิน ด้วยตัวเองในเดือนกันยายนนี้ พร้อมทั้งนำสินค้าผลไม้อินทรีย์ของหมู่บ้านส่งเข้าตลาดอินทรีย์ในจังหวัดอุดรธานีต่อไป



กำลังโหลดความคิดเห็น