อุดรธานี - ผู้การอุดรฯ ชี้กรณีรอง ผกก.ป้องกันปราบปราม สภ.หนองวัวซอ นายตำรวจในสังกัดท้าต่อยกับ “มาร์ค พิทบูล” หากเป็นเรื่องส่วนตัวสามารถทำได้ แต่หากแต่งเครื่องแบบขึ้นชกไม่เหมาะสม ไม่ควรเอาสถาบันตำรวจไปเกี่ยวข้อง ยืนยันถ้าสวมเครื่องแบบขึ้นชกไม่อนุญาตแน่นอน
พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยถึงกรณีผู้ใต้บังคับบัญชา พ.ต.ท.ปฐวี ก้อนวิมล รอง ผกก.ป้องกันปราบปราม สภ.หนองวัวซอ ประกาศผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวท้าชกกับมาร์ค พิทบูล ว่าหากเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ได้เกี่ยวกับสถาบันตำรวจก็สามารถทำได้ ยกตัวอย่างกรณี “ศรีสะเกษ” ขึ้นชกมวยคงไม่ผิดวินัยเพราะเป็นเรื่องส่วนตัว และเป็นอาชีพ สามารถทำได้ แต่เมื่อเอาสถาบันตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง โดยจะขึ้นชกในเครื่องแบบเต็มยศนั้นไม่เหมาะสม ถือว่าก้าวล่วงสถาบันตำรวจซึ่งเป็นไปไม่ได้ ทางผู้บังคับบัญชาก็ไม่สามารถอนุญาตให้ขึ้นชกลักษณะนี้ได้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ พ.ต.ท.ปฐวียังไม่ถึงขั้นผิดวินัย แต่ได้กำชับผู้บังคับบัญชาในชั้นต้นให้ควบคุมกำกับดูแลไปแล้ว
“หากเป็นเรื่องส่วนตัวก็ว่ากันไป ยิ่งหากชกกันแล้วทำไปเชิงสร้างสรรค์ยิ่งเป็นเรื่องที่ดี ก็ไปว่ากันในกติกาของเกมกีฬา ขอย้ำว่าหากขึ้นชกโดนสวมเครื่องแบบ ทางผู้บังคับบัญชาไม่สามารถอนุญาตให้ขึ้นชกได้”
พล.ต.ต.พีระพงศ์ระบุอีกว่า ในประเด็นนี้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงก็คงรู้สึกไม่สบายใจ เนื่องจากกระแสออกมาไม่ค่อยดี โดยการขึ้นชกแบบนี้ส่วนตัวแล้วมองเป็นการไม่สมควร ตำรวจเรามีหน้าที่พิทักษ์รับใช้ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พ.ต.ท.ปฐวี จบจากโรงเรียนนายร้อย นักเรียนนายร้อยทุกคนจะต้องท่องอุดมคติตำรวจทุกวัน
คือ ต้องเคารพเอื้อเฟื้อต่อหน้าที่ กรุณาปรานีต่อประชาชน อดทนต่อความเจ็บใจ ไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบาก ไม่มักมากในลาภผล มุ่งบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชน ดำรงตนในยุติธรรม กระทำการด้วยปัญญา รักษาความไม่ประมาทเสมอชีวิต