สุรินทร์ - ช้างพลายฝาแฝดคู่แรกของโลกแสนรู้ ต้อนรับ “นายกฯ ตู่” เยี่ยมชมหมู่บ้านทอผ้าไหมยกทอง บ้านท่าสว่าง นายกฯ แนะชาวบ้านพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยการสร้างเรื่องราวดึงดูดความสนใจและใช้โซเชียลมีเดียให้เป็นประโยชน์ขายออนไลน์มากขึ้น เผยสุดเซอร์ไพรส์พบเพื่อนซี้เก่าอดีตทหารกอดเอวถ่ายรูป
วันนี้ (7 พ.ค.) ที่หมู่บ้านทอผ้าไหมยกทองโบราณ บ้านท่าสว่าง ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะ ได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมหมู่บ้านโอทอป นวัตกรรมวิถีเพื่อการท่องเที่ยวบ้านท่าสว่าง ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สุรินทร์ได้นำช้างพลายแฝดคู่แรกของโลก พลายทองคำ และทองแท่ง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดสุรินทร์มารอรับนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ให้อาหารแก่ช้างทั้งสองเชือก ก่อนที่ช้างทั้งสองเชือกจะนำงวงมาประสานเป็นรูปหัวใจให้นายกรัฐมนตรี
จากนั้นนายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ผ้าไหม ฝีมือชาวบ้านท่าสว่าง ซึ่งระหว่างการเยี่ยมชมนายกรัฐมนตรีได้แนะนำในการสร้างเรื่องราวให้กับผลิตภัณฑ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้น่าสนใจ รวมทั้งใช้โซเชียลมีเดียให้เป็นประโยชน์ในการส่งเสริมการขายในโลกออนไลน์เพื่อให้สินค้าเป็นที่รู้จักมากขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลพยายามสร้างความเข้มแข็งภาคการผลิต และอยากให้ทุกคนเรียนรู้การค้าแบบขายออนไลน์ให้มากขึ้น ซึ่งรัฐบาลมีช่องทางช่วยสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ยังฝากเกษตรกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างที่เปลี่ยนมาปลูกยางว่า จะต้องทำอะไรให้ยั่งยืน และเป็นห่วงราคายางพาราที่ปลูกเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 แสนไร่แต่ไม่สามารถขายได้เพราะประเทศเพื่อนบ้านก็ปลูกเช่นกัน อย่างไรก็ตาม อยากให้ทุกคนปรับตัว เรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเอง สร้างความมั่นคงในชีวิต จากนั้นนายกรัฐมนตรีเดินทักทายประชาชนที่มารอต้อนรับอย่างเป็นกันเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในระหว่างที่นายกรัฐมนตรีเดินพบปะประชาชนที่เดินทางมาให้การต้อนรับ และเดินมาถึงชาย 2 คนซึ่งบอกกับนายกรัฐมนตรีว่าเคยเป็นทหารทำงานกับนายกรัฐมนตรีที่ชายแดนด้วยเมื่อ 40 ปีที่ผ่านมา นายกฯ สอบถามอายุเท่าไหร่ ชายคนหนึ่งบอกว่าอายุ 62 ปี นายกฯ บอกว่า ฉันอายุ 64 ปี แต่รุ่นเดียวกัน เคยฝึกทหารใหม่ด้วยกัน นายกรัฐมนตรีพูดย้อนหลังเมื่อครั้งไปฝึกทหารใหม่เพราะรัก ฝึกไปก็หัวเราะกันไป และจำชื่อเพื่อนได้ ชื่อ “ลาด” เคยฝึกทหารใหม่ด้วยกันและพูดจาหยอกล้อกัน บอกว่าฝึกทหารใหม่ก็ทำโทษกันเล็กน้อยตามประสา แล้วก็หัวเราะกัน พร้อมหันไปบอกผู้ติดตามว่า นี่พูดกันเสียงดังนะ แล้วหัวเราะ จากนั้นหันมาพูดกับเพื่อนต่ออีกถึงอดีตทำงานด้วยกัน บอกว่ามันนานแล้ว 40 ปีแล้ว และก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินต่อเพื่อนทั้งสองคนได้เข้ามายืนข้างซ้ายและขวาแล้วนายกรัฐมนตรีกอดเอวถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก ก่อนจากกันไปทำหน้าที่ต่อไป