อุทัยธานี - สาธารณสุขจังหวัดฯ ส่งเจ้าหน้าที่กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค-เภสัชฯ ลุยสุ่มตรวจร้านค้าทั่วเมืองอุทัยธานีทั้ง 8 อำเภอ สแกนหาสินค้าเครือข่าย “เมจิกสกิน-Lyn”
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้นายแพทย์ พัลลภ ยอดศิรจินดา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุทัยธานี ได้สั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข สสจ., สสอ.เมืองอุทัยธานี สุ่มตรวจการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพของบริษัทเมจิก สกิน จำกัด และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Lyn ตามร้านจำหน่ายสินค้าเครื่องสำอางและอาหารเสริมทั่วทั้ง 8 อำเภอ
เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและเพื่อแจ้งเตือนต่อให้ผู้บริโภคได้ทราบ ตลอดจนเข้าให้ความรู้และวิธีการตรวจสอบสินค้าต่างๆ แก่เจ้าของร้าน
โดย ภญ.วนิชา สุประดิษฐ์อาภรณ์ เภสัชชำนาญการ และคณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบร้านจำหน่ายสินค้าในกลุ่มเครื่องสำอางและอาหารเสริมในเขตพื้นที่ อ.เมืองอุทัยธานี ซึ่งมีร้านจำหน่ายสินค้ากลุ่มเครื่องสำอางและอาหารเสริมด้วยกัน 2 ร้านใหญ่ ได้แก่ ร้านสร้างวงศ์ เลขที่ 5/819 และร้านกระแต ครอสเมติก เลขที่ 5/24 ถนนเติบศิริ ต.อุทัยใหม่ อ.เมืองอุทัยธานี แต่ไม่พบสินค้าในกลุ่มเป้าหมายแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จึงได้มอบเอกสารรายละเอียดตามประกาศของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่องประกาศผลการตรวจพิสูจน์อาหาร ของสินค้าผลิตภัณฑ์อาหารเสริม LYN ลีน หลังมีการตรวจพบยาแผนปัจจุบันบิซาโคดิล และไซบูทรามีน ที่จัดเป็นอาหารที่มีสิ่งที่น่าจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพเจือปนอยู่เข้าข่ายเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ ตามมาตรา 26 (1) ฝ่าฝืนมาตรา 25 (1) มีโทษตามมาตรา 58 แห่งพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และประกาศเรื่องการสั่งระงับการกระทำฝ่าฝืน หรือแก้ไขปรับปรุงหรือปฏิบัติให้ถูกต้อง ของสินค้าของบริษัท เมจิก สกิน จำกัด ซึ่งมีผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผิดกฎหมายที่ถูกเพิกถอนการจดแจ้งตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา จำนวน 39 รายการ และ 227 รายการ 5 ผู้ใดจำหน่ายเครื่องสำอางที่ถูกเพิกถอนการจดแจ้งตามมาตรา 36 (2) หรือ 37 (1) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท ตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 ด้านผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่เข้าข่ายอาหารปลอม หากผู้ใดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ระบุฉลากว่าผลิตโดยบริษัท เมจิก สกิน จำกัด และฉลากที่มีการแสดงเลขสารบบอาหาร ถือว่าเป็นการจำหน่ายสินค้าปลอมตามมาตรา 25 (2) แห่งพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 5,000 ถึง 10,000 บาท
พร้อมกันนี้ยังได้มอบเอกสารที่มีรายชื่อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวให้แก่ทางร้านได้ตรวจสอบ พร้อมกับให้คำแนะนำแก่เจ้าของร้านเกี่ยวกับการเลือกนำสินค้าเข้ามาวางจำหน่าย โดยเฉพาะสินค้าที่ควรเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เช่น สินค้าที่ระบุข้อความชวนเชื่อ หรือใช้คำโฆษณาเกินจริง สินค้าที่ระบุที่มาที่ไปไม่ชัดเจน และสินค้าที่ฉลากไม่มีภาษาไทย เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำมาวางจำหน่ายอีกด้วย
