มหาสารคาม - อสม.และหมออนามัยทั้ง จ.มหาสารคาม วอนบิ๊กตู่ใ ช้ม.44 จัดตั้งสำนักงานส่งเสริมสุขภาพประชาชนแห่งชาติ (สสปช.) ชูเป็นทางเลือกแก้ปัญหาระบบสุขภาพของประเทศ ให้ความสำคัญต่อการป้องกันและรักษา สร้างสุขภาพดีให้คนไทยอย่างยั่งยืน
วันนี้ (30 เม.ย. 61) ที่ศาลาปฏิบัติธรรม พระบรมธาตุนาดูน อ.นาดูน จ.มหาสารคาม นายประสาทพร สีกงพลี นายกเทศมนตรีตำบลนาดูน เป็นประธานเปิดเวทีประชุมสัมมนา “ทางเลือกทางรอดของการปฏิรูประบบสุขภาพไทย สสปช.ภาคประชาชนจังหวัดมหาสารคาม” เพื่อขับเคลื่อนต่อยอดในชุมชนให้เกิดแนวคิดใหม่ และสร้างสุขภาพร่วมกับภาคีเครือข่ายในระดับพื้นที่หมู่บ้าน/ชุมชน รวมพลคนเสื้อเขียว ป้องกันและรักษาสุขภาพ สร้างสุขภาพที่ดีให้แก่คนไทยอย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรม โดยมี อสม.จาก อ.นาดูน, อ.วาปีปทุม, อ.นาเชือก, อ.เชียงยืน และ อ.เมืองมหาสารคาม รวมกว่า 4,000 คนร่วมงาน
ดร.สาธุ อนุโมทามิ ประธานเครือข่ายคนไทยรักชาติ เลขาธิการเครือข่ายพสกนิกรไทย รวมใจสามัคคี (คพ.รส.) ในฐานะผู้คิดและนำสร้างสำนักงานส่งเสริมสุขภาพประชาชนแห่งชาติ (สสปช.) กล่าวว่า ปัจจุบันประชาชนป่วยด้วยโรคต่างๆ รวมถึงโรคเรื้อรังเพิ่มขึ้น งบประมาณส่วนใหญ่เน้นการรักษา ทั้งเพิ่มการบรรจุคน ค่าตอบแทน สร้างอาคารและซื้อเครื่องมือแพทย์ที่ราคาสูงมาก แต่ก็ไม่ทำให้ปริมาณผู้ป่วยลดลง อนาคตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม.คือผู้ที่ใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด เห็นความเป็นอยู่ การเจ็บป่วย ด้วยวัยที่ไม่สมควรป่วยและต้องป้องกันแก้ไขอย่างเร่งด่วน เรื่องการสร้างสุขภาพนำซ่อม จึงมีการรวมพลคนเสื้อเขียว รวมพลคนป้องกันและรักษาสุขภาพ เพื่อคนมหาสารคามมีสุขภพดี แข็งแรง และร่วมร่างกฎหมาย ผลักดันก่อสร้างสำนักงานส่งเสริมสุขภาพภาคประชาชนแห่งชาติ (สสปช.) เพื่อร่วมกันแก้ไข สร้างสุขภาพคนไทยอย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรม
อยากผลักดันให้ “สสปช.” สำเร็จโดยเร็ว เป็นประโยชน์แท้จริงต่อประชาชนและประเทศ หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เห็นว่าเป็นประโยชน์ควรทำเลย โดยใช้มาตรา 44 จะทำสำเร็จทันที ส่งต่อให้ สนช.ออกกฎหมายได้เลย ประชาชนจะชื่นชมผลงานรัฐบาล ส่งผลให้ อสม. หมออนามัย และแพทย์แผนไทย 1 ล้านกว่าคนจะลงไปดูแลสุขภาพประชาชนได้อย่างรวดเร็วทั่วถึง ในเวลาไม่นานคนไทยจะมีสุขภาพดี แข็งแรง ไม่เจ็บป่วย ช่วยชาติประหยัดงบประมาณลงไปได้มหาศาล และจะเป็นโมเดลต้นแบบของโลกต่อการแก้ปัญหาการเจ็บป่วยของคนทั้งโลก โดยเฉพาะโรค NCD ที่ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นและยังไม่มีแนวทางทำให้ผู้ป่วยลดลง
เวที สสปช.ทางเลือกทางรอดของการปฏิรูประบบสุขภาพไทยจะนำสู่การให้ผู้ใหญ่ในรัฐบาล ทราบถึงแนวทางแก้ไขปัญหาระบบสุขภาพของประเทศ ที่ผ่านมาคำว่า สร้างนำซ่อม ซึ่งจะทำอย่างไรให้คนไทยสุขภาพดีไม่เจ็บป่วย นำหน่วยงานและบุคลากรที่ทำงานด้านการส่งเสริมสุขภาพ ทั้งหมออนามัย อสม.เข้ามาร่วมในหน่วยงาน และขึ้นตรงต่อสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นหน่วยงานสำคัญ อีกทั้งได้เปิดเวทีเพื่อรับฟังความคิดเห็นมาแล้ว 40 จังหวัด มีประชาชนร่วมเข้าชื่อเสนอกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 133(3) แล้วกว่า 2 แสนคน โดยตั้งเป้าประชาชนร่วมลงชื่อจำนวน 1 ล้านคน ให้รัฐบาลได้แก้ปัญหาสุขภาพ
ด้าน นายเสาศิลป์ เพ็งสุวรรณ ประธานอาสาสมัครสาธารณสุขอำเภอนาดูน กล่าวว่า ตนทำหน้าที่เป็นอาสาสมัครมานานกว่า 10 ปี ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์มามาก ส่วนใหญ่เป็นเพื่อน ญาติในหมู่บ้าน ปัจจุบันพบว่ามีปัญหาเรื่องสุขภาพเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตประชาชน
ในอนาคตหากปัญหาสุขภาพยังไม่ได้รับการแก้ไข หรือส่งเสริมให้ดีขึ้นก็จะพบปัญหาผู้ป่วยเพิ่มขึ้น รัฐบาลจะสิ้นเปลืองงบประมาณเพิ่มมหาศาล หากเราหันกลับมาดูแลสุขภาพ สร้างภาคีเครือข่ายความรู้กับชาวบ้านก็จะทำให้ปัญหาดังกล่าวถูกแก้ไขไปทางที่ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะพี่น้อง อสม.ที่ต้องดูแลสุขภาพประชาชนในชุมชน หากขึ้นตรงต่อสำนักนายกรัฐมนตรีจะส่งผลให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืน