MGR Online - ผบ.ตร. กำชับเอาผิดทั้งทางวินัยและอาญา รอง ผกก.พยัคฆภูมิพิสัย ที่เคยกร่างในร้านขายอุปกรณ์มือถือ จากเหตุสั่งลงโทษลูกน้องไม่เหมาะสม - ทำร้ายนายก อบต. ผู้การมหาสารคามสั่งย้ายเข้าศูนย์ปฏิบัติการจังหวัด พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว
วันนี้ (21 เม.ย.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีการส่งต่อวิดีโอ ปรากฏภาพชายไทยสวมกางเกงตำรวจ เสื้อแจ๊กเก็ตสีดำ ถือวิทยุสื่อสาร มีปากเสียงกับพนักงานหญิงในร้านขายอุปกรณ์โทรศัพท์ ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ว่า ได้รับรายงานจาก บช.ภ.4 ว่า บุคคลที่ปรากฏตามวิดีโอ คือ พ.ต.ท.ยุทธนา บรรจงปรุ รอง ผกก.ปป.สภ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดเมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2560 เวลาประมาณ 14.00 น. ที่ร้านขายอุปกรณ์มือถือ ภายในห้างโลตัส สาขาพยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม จากนั้นมีการเผยแพร่วิดีโอดังกล่าว ในกลุ่มสังคมออนไลน์ในพื้นที่ อ.พยัคฆภูมิพิสัย ซึ่ง พ.ต.อ.วีระยุทธ ใบภักดี ผกก.สภ.พยัคฆภูมิพิสัย ได้ให้ พ.ต.ท.ยุทธนา รายงานชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมทั้งสอบถามไปยังเจ้าของร้านแจ้งว่าได้ทำความเข้าใจกับ พ.ต.ท.ยุทธนา จนเป็นที่พอใจแล้ว และไม่ติดใจในประเด็นข้อพิพาท และไม่ประสงค์ให้ สภ.พยัคฆภูมิพิสัย ดำเนินคดีอาญาและดำเนินการทางวินัยกับ พ.ต.ท.ยุทธนา ทาง พ.ต.อ.วีระยุทธ จึงได้ว่ากล่าวตักเตือน พ.ต.ท.ยุทธนา ให้ใช้ความระมัดระวังในการแสดงออกและวางตัวกับประชาชน ให้คำนึงถึงภาพลักษณ์ของข้าราชการตำรวจที่ดี
ต่อมาเมื่อวันที่ 14 เม.ย. ที่ผ่านมา เวลา 18.20 น. ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ยุทธนา ได้สั่งลงโทษ ร.ต.ท.สันติสุข หลงสอน รอง สว.(ป) สภ.พยัคฆภูมิพิสัย ซึ่งปฏิบัติหน้าที่สายตรวจตำบลลานสะแก ในลักษณะที่ไม่เหมาะสม และเกิดมีปากเสียง ทำร้ายร่างกาย กับ นายนิกรพล ศรีชัย นายก อบต.ลานสะแก ซึ่งผู้เสียหายได้แจ้งความดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.ยุทธนา ไว้แล้ว ทางพนักงานสอบสวนจะได้สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และมีความเห็นทางคดีต่อไป
ต่อมาในวันที่ 15 เม.ย. ที่ผ่านมา พล.ต.ต.อภิศักดิ์ เดชะคำภู ผบก.ภ.จว.มหาสารคราม ได้มีคำสั่ง ให้ พ.ต.ท.ยุทธนา ไปปฏิบัติราชการ ที่ ศปก. ภ.จว.มหาสารคราม และตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงในกรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าว
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ได้รายงานให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ทราบแล้ว ซึ่งท่าน ผบ.ตร. ได้กำชับให้ดำเนินการไปตามกฎหมาย ว่ากันด้วยพยานหลักฐานเป็นหลัก หากพบว่ามีความผิดจริงจะดำเนินการอย่างเฉียบขาดทั้งทาง อาญา และวินัย ในชั้นนี้ต้องให้พนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานให้เพียงพอก่อน
“ท่าน ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำนโยบายมาตลอดว่าข้าราชการตำรวจต้องมีจิตสำนึกของความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ต้องมีท่าทีเป็นมิตรและมนุษยสัมพันธ์อันดี มีความสุภาพอ่อนโยนกับประชาชน ปฏิบัติตนให้เป็นที่เชื่อถือ ไม่เบียดเบียน ไม่แสดงกิริยา ท่าทางไม่สุภาพ ดูหมิ่น หรือเหยียดหยามประชาชน ต้องมุ่งสร้างความสัมพันธ์อันดี ระหว่างตำรวจ กับประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนนโยบายด้านการเป็นผู้บังคับบัญชาที่ดีนั้น จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดี เป็นผู้ชี้นำที่ถูกต้องให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา เสริมสร้างความสามัคคี บำรุงขวัญและกำลังใจแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งส่วนใหญ่ได้นำปฏิบัติตามและเกิดประสิทธิภาพในการทำงาน ป้องกันปราบปราม ดูแลความปลอดภัย และบริการพี่น้องประชาชนแล้ว” รองโฆษก ตร. กล่าวและว่า หากพบว่ามีตำรวจนายใดยังไม่ปฏิบัติตาม อย่างเช่นกรณีที่เกิดขึ้นทาง ตร. จะดำเนินการอย่างถึงที่สุด ทั้งทางวินัยและ ทางอาญา เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับตำรวจนายอื่น และจะไม่ปล่อยไว้ให้เกิดความเสื่อมเสียต่อองค์กร และหมู่คณะ
