กาญจนบุรี - รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ลงพื้นที่ จ.กาญจน์ ร่วมประชุมคณะกรรมการไตรภาคี เพื่อติดตามการดำเนินโครงการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้จากการปนเปื้อนสารตะกั่ว งบกว่า 400 ล้านบาท
วันนี้ (30 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ ที่วัดคลิตี้ผลธรรมาราม ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี นายสมชาย ทรงประกอบ รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ พร้อมด้วย นายศุภวัฒน์ คุณวรวินิจ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการตลาด บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน (มหาชน) ผู้รับจ้าง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงู เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ คณะกรรมการภาคประชาชน และชาวบ้านบ้านคลิตี้กว่า 100 คน เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการไตรภาคี เพื่อติดตามการดำเนินโครงการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้จากการปนเปื้อนสารตะกั่ว เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่ตั้งข้อสงสัยมาตรการการทำงานของกรมควบคุมมลพิษ
โดยบรรยากาศการประชุมเริ่มด้วยการพูดคุย และนำเสนอให้คณะกรรมการฯ และชาวบ้านทราบถึงวิธีการขั้นตอนในการดำเนินการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ ตามคำแนะนำของนักวิชาการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเป็นที่ปรึกษาโครงการได้ให้ไว้ เช่น การฟื้นฟู และนำตะกอนออกจากลำห้วยคลิตี้นั้น ไม่จำเป็นต้องทำทั้งลำห้วย โดยจะเลือกตักตะกอนออกจากลำห้วยในจุดที่มีปัญหาเท่านั้น
ส่วนข้อกังวลของประชาชนในพื้นที่เกี่ยวกับเรื่องน้ำในการอุปโภคบริโภคนั้น ทางกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ตั้งงบประมาณไว้พร้อมที่จะลงมือก่อสร้างถังน้ำประปาพร้อมระบบส่งน้ำในปี 2562 ช่วงนี้อยู่ระหว่างการขอใช้พื้นที่จากทางกรมอุทยานฯ เพราะเป็นพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติลำคลองงู
โดยตามแผนฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้จากการปนเปื้อนสารตะกั่วภายใต้การรับผิดชอบของกรมควบคุมมลพิษ โดยมีบริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน (มหาชน) ตามสัญญาเลขที่ 333/2560 ลงวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ.2560 ระยะเวลาดำเนินโครงการ 16 พฤศจิกายน 2560 ถึงวันที่ 13 สิงหาคม 2563 รวม 1,000 วัน งบประมาณ 454,762,865.73 บาท โดยให้ดำเนินการดังต่อไปนี้
1.งานก่อสร้างหลุมฝังกลบแบบปลอดภัยและองค์ประกอบต่างๆ 2.งานฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ (งานดูดตะกอนในลำห้วยคลิตี้ และหน้าฝาย) 3.งานฟื้นฟูพื้นที่รอบโรงแต่งแร่เดิม 4.งานก่อสร้างฝายดักตะกอน จำนวน 2 ฝาย และ 5.งานปรับปรุงถนนบริเวณชุมชนคลิตี้บนและชุมชนคลิตี้ล่าง
โดยการประชุม นายศุภวัฒน์ คุณวรวินิจ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการตลาด บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน (มหาชน) ได้เข้าร่วมการประชุม โดยได้นำเสนอความคืบหน้าของโครงการให้คณะกรรมการฯ และประชาชนได้รับรู้ พร้อมทั้งเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
โดยตัวแทนชาวบ้านที่เข้าร่วมประชุมได้ขอให้กรมควบคุมมลพิษ และบริษัทขยายการปรับปรุงถนนโดยใช้ดิน และหินที่นำขึ้นมาจากการขุดบ่อฝังกลบ มาปรับพื้นผิวถนนภายในชุมชนบ้านคลิตี้ล่าง และคลิตี้บน ตามแผนการฟื้นฟูนั้น
ชาวบ้านมีความต้องการให้ขยายให้ครอบคลุมถึงถนนสายหลักที่วิ่งจากหมู่บ้านคลิตี้บน ไปจดทางเข้าหมู่บ้านบริเวณแยกเขาพระอินทร์ ซึ่งเป็นถนนคอนกรีต เพราะหากไม่ครอบคลุมแล้ว ในฤดูฝนการเดินทางเข้าออกของชาวบ้านจะลำบาก
เนื่องจากการทำงานของบริษัทจะต้องใช้รถบรรทุกในการลำเลียงวัสดุเข้าพื้นที่ ย่อมสร้างความเสียหายให้แก่ถนนสายดังกล่าวซึ่งเป็นถนนที่ชาวบ้านใช้เดินทางเข้าออกหมู่บ้านกับอำเภอ ซึ่งในที่ประชุมรับพิจารณา และจะให้คำตอบภายในสัปดาห์นี้
ต่อมา คณะกรรมการได้เดินทางลงพื้นที่งานก่อสร้างหลุบฝังกลบแบบปลอดภัย และองค์ประกอบต่างๆ ทางกรมฯ ขอใช้พื้นที่ของอุทยานแห่งชาติลำคลองงู ในการก่อสร้าง ซึ่งเป็นพื้นที่บนเขาสูง โดยบ่อดังกล่าวห่างจากหมู่บ้านคลิตี้บน ประมาณ 7 กิโลเมตร ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นหิน ทางบริษัทต้องทำการปรับพิ้นผิวให้มีความลึก 8 เมตร โดยการขุดเอาหินทั้งหมดออกจากพื้นที่ ประมาณ 200,000 คิว
โดยการนำไปปรับพื้นผิวถนนทั้งหมดที่อยู่ในแผนการฟื้นฟูฯ รวมทั้งนำไปปิดคลุมพื้นที่โรงแต่งแร่และพื้นที่โดยรอบ ซึ่งเป็นงานที่ต้องใช้เวลาในการดำเนินการ ซึ่งแผนการดำเนินการกรมควบคุมมลพิษ มีทั้งหมดดังต่อไปนี้ ปี 2561 ดำเนินการในส่วนของ 1.งานก่อสร้างหลุมฝังกลบแบบปลอดภัยและองค์ประกอบต่างๆ 2.งานปิดคลุมฟื้นฟูบริเวณโรงแต่งแรและบริเวณโดยรอบ 3.งานฟื้นบริเวณโรงแต่งแร่โดยการดาดคอนกรีต 4.งานก่อสร้างสำนักงานชั่วคราว 5.งานปรับปรุงถนนบริเวณคลิตี้บนและคลิตี้ล่าง และ 6.งานก่อสร้างฝายดักตะกอน จำนวน 2 ฝาย
ปี 2562 1.งานปิดคลุมฟื้นฟูบริเวณโรงแต่งแร่ และบริเวณโดยรอบ 2.งานดูดตะกอน ในลำห้วยคลิตี้ และหน้าฝาย
ปี 2563 1.งานปิดคลุมหลุมฝังกลบ และ 2.งานปรับคืนสภาพพื้นที่โครงการ
ซึ่งโครงการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้จากการปนเปื้อนสารตะกั่ว ภายใต้การดำเนินการของกรมควบคุมมลพิษ กำลังเป็นที่จับตาของนักวิชาการ และสังคม ว่า สุดท้ายแล้วจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาเรื่องการฟื้นฟูเพื่อคืนชีวิตให้ลำห้วยคลิตี้ที่ครั้งหนึ่งได้ชื่อว่าเป็นลำห้วยมรณะ จะกลับมาเป็นสายน้ำแห่งชีวิตที่ชาวคลิตี้จะสามารถกลับมาใช้หล่อเลี้ยงชีวิตได้เหมือนในอดีตเมื่อไร