ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ตำรวจภูธรเมืองขอนแก่นรวบแก๊งตระเวนลักรถจักรยานยนต์ทั่วเมืองขอนแก่น ขายต่อให้นายหน้าที่จังหวัดเลยส่งข้ามแม่น้ำโขงขายตามออเดอร์ฝั่งลาว สารภาพขโมยมาแล้วกว่า 50 คัน โดยเลือกลักรถที่จอดไว้ตามหอพัก ศูนย์การค้าหรือแหล่งชุมชนที่เจ้าของไม่ได้ล็อกคอหรือเสียบกุญแจคาไว้
วันนี้ (30 เม.ย.) เวลา 10.30 น. ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น พล.ต.ต.พรหมณัฏฐเขต ฮามคำไพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.จำลอง สุวลักษณ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น เข้าตรวจสอบรถจักรยานยนต์ของกลางที่ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น สามารถตรวจยึดได้ พร้อมจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 6 คน ประกอบด้วย
นายวีรภัทร ผิวเหลือ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48/3 หมู่ 1 ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น, นายเกรียงไกร ในจิตร อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/3 หมู่ 4 ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น, นายทรงวุฒิ สมแพง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 334 หมู่ 8 ต.พระลับ อ.เมืองขอนแก่น, นายหนูภาพ สอนอ่อน อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 232 หมู่ 2 ต.นาซ่าว อ.เชียงคาน จ.เลย, นายสนธยา แพงร้อย อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56/1 หมู่ 3 ต.นาซ่าว อ.เชียงคาน จ.เลย และนายพลวัฒน์ พลสุพี อายุ 23 ปีอยู่บ้านเลขที่ 243 หมู่ 6 ต.วังปลาป้อม อ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู
ก่อนจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ได้รับแจ้งเหตุมีการลักรถจักรยานยนต์ในพื้นที่จำนวนมาก จึงวางแผนจับกุมคนร้าย โดยสืบจากกล้องวงจรปิดตามหอพักต่างๆ และศูนย์การค้า กระทั่งสืบทราบว่าผู้ต้องหาที่ลงมือก่อเหตุคือ นายวีรภัทร, นายเกรียงไกร และนายทรงวุฒิ จึงได้ส่งชุดสืบสวนแกะรอยจนสามารถจับกุมได้ จากนั้นได้ขยายผลติดตามจับกุมพรรคพวกที่ร่วมลักขโมยจนสามารถจับกุมได้อีก 3 คน
พล.ต.ต.พรหมณัฏฐเขต ฮามคำไพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า การจับกุมผู้ต้องหาครั้งนี้สามารถตรวจยึดรถจักรยายนต์ได้ 8 คัน แผ่นป้ายทะเบียนจำนวน 10 แผ่น ซึ่งผู้ต้องหาสารภาพว่าได้ลงมือก่อเหตุในพื้นที่อำเภอเมืองขอนแก่นมาแล้วหลายครั้ง ได้รถจักรยานยนต์กว่า 50 คัน
รถจักรยานยนต์ที่ขโมยมาได้จะมีนางหนูภาพ นายทุนใหญ่ในพื้นที่อำเภอเชียงคาน จ.เลย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหลบหนีเป็นคนรับซื้อ หลังจากนั้นจะลอบขนข้ามแม่น้ำโขง ส่งขายให้ลูกค้าฝั่งลาว
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 3 คนไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง จะลักขโมยรถจักรยานยนต์เพียงอย่างเดียวเพื่อนำเงินมาใช้ในชีวิตประจำวัน โดยพฤติกรรมจะตระเวนหารถจักรยายนต์ตามหอพัก หรือแหล่งที่มีคนพลุกพล่าน
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ต้องหาจะเลือกรถจักรยานยนต์ที่ไม่ได้ล็อกคอ หรือเสียบกุญแจคาไว้ จากนั้นจะเข็นออกมาแล้วเพื่อนในแก๊งขี่รถจักรยานยนต์อีกคันมาประกบ ก่อนที่จะถีบรถออกไป