ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตำรวจภาค 3 ทำเก๋นำผู้ถูกจับเมาแล้วขับช่วงเทศกาลสงกรานต์อบรมธรรมะ พร้อมสาบานตนต่อหน้า “ย่าโม” กลับใจเมาไม่ขับ และสร้างจิตสำนึกต่อสังคม เผยสงกรานต์โคราชจับกุมดำเนินคดีเมาแล้วขับ 2,915 ราย มีทุกเพศทุกวัย ส่วนใหญ่ทำผิดซ้ำ
วันนี้ (18 เม.ย.) เวลา 10.00 น. ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) เป็นประธานเปิด “โครงการเมาแล้วขับ กลับใจ เลิกเมาแล้ว” โดยมีผู้ถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาเมาแล้วขับ จำนวน 81 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เคยกระทำผิดมาแล้ว และมีทุกเพศทุกวัย ทั้งผู้สูงอายุ วัยทำงาน คนหนุ่มสาว เยาวชนและสตรี เข้าร่วมโครงการ รวมทั้งมีนายมุรธาธีร์ รักชาติเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา, สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา และสรรพสามิตพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ร่วมพิธีเปิดด้วย
จากนั้นพระสีหราชสมาจารมุณี รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา รองเจ้าอาวาสวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา ได้แสดงธรรมเทศนาขัดเกลาจิตใจ สอนสั่งการประพฤติปฏิบัติตนการไม่ดื่มสุรา พร้อมเจริญพระพุทธมนต์ประพรมน้ำมนต์
ภายหลังอบรมบ่มนิสัยด้วยธรรมะแล้วได้ให้ทุกคนยืนต่อหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของ จ.นครราชสีมา เพื่อกล่าวปฏิญาณตนว่าจะไม่กลับไปดื่มสุราเมาแล้วขับรถอีก โดย จ.นครราชสีมา ทั้ง 32 อำเภอ ช่วงเทศกาลสงกรานต์มีการจับกุมดำเนินคดีเมาแล้วขับจำนวน 2,915 ราย มีทั้งผู้ใหญ่และเยาวชน
สำหรับวัตถุประสงค์โครงการดังกล่าวเพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการที่กระทำผิดกฎหมายได้กลับตัวกลับใจและปฏิญาณตนต่อหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ว่าจะไม่กลับไปดื่มสุราเมื่อจะขับรถ และจะเคารพกฎจราจร ตามคำขวัญที่ว่าขับรถดี มีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร จุดเริ่มต้นของการปลุกจิตสำนึกให้แก่ผู้ขับขี่รถที่ยังขาดความรับผิดชอบต่อสังคมจะได้ไม่กลับไปกระทำความผิดอีก และเป็นตัวอย่างให้กับกลุ่มเสี่ยงที่จะกระทำความผิดได้ตระหนักและร่วมกันรณรงค์ในการขับขี่รถเคารพกฎหมายจราจร เพื่อลดการสูญเสียให้แก่ตนเองและผู้อื่นซึ่งจะนำไปสู่การลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งผู้เข้าร่วมโครงการจะได้เป็นผู้ร่วมในการรณรงค์สร้างจิตสำนึก มีน้ำใจ รักษาวินัยจราจรให้แก่ผู้ขับขี่เยาวชน นักเรียน ในเรื่องการดื่มสุราแล้วขับรถ โดยเป็นสาเหตุหลักในการเกิดอุบัติเหตุทางถนนซึ่งเป็นพฤติกรรมผู้ขับขี่ที่ขาดจิตสำนึกทำให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิต ร่างกายและทรัพย์สิน
