ศูนย์ข่าวขอนแก่น - สรุปผลรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงสงกรานต์ จ.ขอนแก่น 2561 ช่วง 7 วันอันตราย พบสถิติสูงขึ้นทุกด้านจากปี 2560 ทั้งยอดอุบัติเหตุ 70 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 70 คน ผู้เสียชีวิต 7 คน ด้านตำรวจขอนแก่น ยึดรถเมาขับช่วงสงกรานต์ 627 ราย
วันนี้ (18 เม.ย. 61) นายสมศักด์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานสรุปผลอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์และทำการปิดศูนย์สรุปอุบัติเหตุสงกรานต์ขอนแก่น 2561 ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. 2561 รวม 7 วัน มีอุบัติเหตุเกิด 70 ครั้งมีผู้บาดเจ็บ 70 คน ผู้เสียชีวิต 7 คน อำเภอที่เสียชีวิตประกอบด้วย อำเภอเมืองฯ 4 คน อำเภอชุมแพ 2 คน และอำเภอบ้านแฮด 1 คน มีการตั้งด่านหลัก 72 จุด ถนนที่เกิดอุบัติเหตุมากสุด คือถนนในเขต อบต.ถนนตามหมู่บ้าน
ส่วนจักรยานยนต์เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดถึง 54 ครั้ง กระบะ 7 ครั้ง เก๋ง 2 ครั้ง รถ SUV 1 ครั้ง รถตู้ 2 ครั้ง มีการเรียกตรวจรถ 299,361 คัน ดำเนินคดี ตามมาตรการหลัก 10 มาตรการ จำนวน 24,536 ราย ความผิดมากที่สุด คือ คนขับไม่มีใบขับขี่ รองลงมาไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย คดีเมาไม่ขับจับจำนวน 695 ราย คดีโทรศัพท์ขณะขับรถ 708 ราย มีการยึดรถตามคำสั่ง คสช.รวม 30 คัน ซึ่งทุกอย่างสูงกว่าสงกรานต์ปี 2560
ขณะเดียวกัน ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น พบว่ามีประชาชนจำนวนมากทยอยกันเดินทางมาติดต่อขอรับรถยนต์และจักรยานยนต์ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจยึดไว้ตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตามนโยบาย “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจสอบเอกสารหลักฐานและการดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
พ.ต.อ.นพดล เพ็ชร์สุทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า การบังคับใช้กฎหมายเพื่อลดสถิติของการเกิดอุบัติเหตุตลอดช่วงเฝ้าระวัง 7 วันอันตรายเทศกาลสงกรานต์นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 30 สถานี ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ดำเนินการอย่างเต็มที่ และเข้มงวดตามการบังคับใช้กฎหมายสูงสุด โดยตั้งจุดตรวจหลักและจุดตรวจรองแบบใยแมงมุม โดยมีผลการจับกุมผู้ขับขี่รถขณะเมาสุรา ถึงวันที่ 17 เม.ย.รวม 627 ราย
รถทุกคันที่ถูกจับกุมและตรวจยึดถึงวันที่ 17 เม.ย.รวม 627 คันนั้นได้ถูกตรวจยึดไว้ที่สถานีตำรวจ เพื่อรอให้การดำเนินการทางคดีสิ้นสุด จากนั้นเจ้าของรถหรือญาติพี่น้องสามารถนำเอกสารหลักฐานการครอบครองรถมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับรถกลับคืนไปได้ อย่างไรก็ตาม การจับกุมนั้นพบว่าพื้นที่ อ.เมืองขอนแก่น มีผลการจับกุมมากที่สุดรองลงมา คือ ที่ อ.ชุมแพ และ อ.บ้านไผ่ ตามลำดับ
