ศูนย์ข่าวศรีราชา - เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี คาดราคาที่ดินใน อ.ศรีราชา จะขยับได้แรงสุดรับการเกิดขึ้นของ โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกของปี 62 ที่นักลงทุนต่างรอความชัดเจนในเรื่องกฎหมายพิเศษ โดยพบอัตราการขยับตัวของราคาแบบก้าวกระโดดมาตั้งแต่ปี 57-58 ส่วน อ.บางละมุง ชัดเจนเรื่องการเป็นพื้นที่อยู่อาศัยและขณะนี้เริ่มขยับขยายไปใน อ.สัตหีบ
โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ถือเป็นโครงการต่อยอดการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก อันได้แก่จังหวัดชลบุรี ระยองและฉะเชิงเทรา เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เนื่องจากตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ของภูมิภาคอาเซียนและโดยเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมที่สำคัญของไทย เนื่องจากมีทั้งอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ยานยนต์ และชิ้นส่วน ซึ่งมี 4 ภายใต้แผนงานหลักในการพัฒนาภาคอุตสาหกรรม ,โครงสร้างพื้นฐานคมนาคม ,สนามบินอู่ตะเภา ท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ และโครงการพัฒนาเมืองระบบสาธารณูปโภคด้านการท่องเที่ยวและสาธารณสุข
นายกิตติพงศ์ ผลประยูร เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี เผยว่าในส่วนของการจับจองที่ดินในพื้นที่ จ.ชลบุรี มีการขยายตัวสูงขึ้นแบบก้าวกระโดดตั้งแต่ ปี 2557-2558 โดยเฉพาะพื้นที่ อ.ศรีราชา ,บางละมุง และสัตหีบ โดยเฉพาะใน อ.ศรีราชา จากสถิติการเก็บรายได้ของสำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรีพบว่า ในปี 2557 อ.ศรีราชา จัดเก็บรายได้ได้จำนวน 593,321,765 บาท และในปี 2558 การเก็บรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 1,752,356,187 บาท ถือว่าเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าตัว
“ ก่อนที่ในปี 2559 ถึงไตรมาสแรกปี 2561 การเก็บรายได้ของสำนักงานที่ดินจะคงที่ แสดงให้เห็นว่าประชาชนมีความตื่นตัวตามโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา”
ส่วนความเคลื่อนไหวในการซื้อขายที่ดินหลังมีการประกาศพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรือ หรือ EEC ใน จ.ชลบุรี ,ระยอง และฉะเชิงเทรานั้น จากข้อมูลสถิติปริมาณการเกิดและการจัดเก็บรายได้ของสำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี ในปี2559 จนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีนัยยะสำคัญที่จะทำให้เห็นว่า มีการเปลี่ยนแปลงทางตัวเลขที่น่าตกใจ
แต่หากย้อนกลับไปในปี 2557-2558 กลับมีตัวเลขการจัดเก็บรายได้ที่ เติบโตสูงขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะ อ.ศรีราชา ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นักลงทุนมีการตื่นตัวก่อนล่วงหน้า หลังทราบนโยบายของรัฐบาล
“ในขณะนี้การจัดเก็บรายได้ใน อ.ศรีราชา ,บางละมุง และสัตหีบ ยังอยู่ในระดับคงที่ ซึ่งก็อาจจะมาจากประชาชนและนักลงทุนกำลังรอดูความชัดเจนของรัฐบาล เกี่ยวกับรายละเอียดปลีกย่อยของกฎหมายฉบับพิเศษที่จะนำมาใช้ในพื้นที่ จึงคาดว่าในช่วงไตรมาสแรกปี 2562 เป็นต้นไป การขยายตัวของเมือง และกำลังซื้อของประชาชน จะมีมากขึ้น และพื้นที่ที่น่าสนใจที่สุดก็คาดว่าจะหนีไม่พ้น อ.ศรีราชา อย่างแน่นอน ส่วน อ.บางละมุง จะเป็นพื้นที่อยู่อาศัยและการท่องเที่ยว และกำลังจะขยายตัวไปใน อ.อำเภอสัตหีบ”
นายกิตติพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่าแต่ อ.สัตหีบ ก็มีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ส่วนใหญ่ที่เป็นพื้นที่ของทหาร ซึ่งในอนาคตอาจจะมีปัญหาความขัดแย้งในการใช้ประโยชน์ของที่ดินตามมาได้ ซึ่งก็ต้องรอดูอีกว่าข้อกฏหมายใหม่ที่จะบังคับใช้ในพื้นที่แห่งนี้จะเป็นอย่างไร