ตราด - ทหาร - ตำรวจ รวมทั้งฝ่ายปกครอง ต.ไม้รูด จ.ตราด ร่วมจับกุมผู้ต้องหาขนอาวุธสงครามล็อตใหญ่ คาด่านตรวจ และสกัดกั้นการขนสินค้าผิดกฎหมาย ช่วงเทศกาลสงกรานต์ พบทั้งปืนเอ็ม 16 ปืนทาวอร์ และหัวส่วนบนของปืนเอ็ม 16 เบื้องต้น ผู้ต้องหาอ้างว่าขนมาจากประเทศเพื่อนบ้านเพื่อเตรียมนำส่งขายให้ผู้รับซื้อใน จ.สระบุรี และใกล้เคียง โดยกระทำเพียงคนเดียว แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงกลางดึกคืนวานนี้ (10 เม.ย.) ร.ต.อ.สิงห์ นารี สวป.สภ.ไม้รูด จ.ตราด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ และ ร.อ.เกษม รอดจีน ผบ.ร้อย ทพ.นย.ที่ 532 (จ้าวภูผา) และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมตั้งจุดตรวจจุดสกัดช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาที่สั่งการให้ตั้งจุดสกัดเพื่อตรวจค้น และสกัดกั้นการขนสินค้าผิดกฎหมายทุกชนิด ซึ่งระหว่างนั้นได้มีรถยนต์กระบะสีดำ ยี่ห้อโตโยต้า 4 ประตู หมายเลขทะเบียน ภศ 8738 กรุงเทพมหานคร กระบะตอนหลังปิดฝาด้วยพลาสติก ด้านกระจกหน้ารถยนต์มีสติกเกอร์ระบุสังกัด “พัน 4รอ.มีสัญลักษณ์รถถัง 2557 ด้านล่างชื่อเต็มว่า ทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์” ที่มี นายชยุต ประเสริฐฤทธิ์ อายุ 53 ปี ชาวจ.สระบุรี เป็นคนขับ จึงขอทำการตรวจค้น
โดยพบบริเวณด้านหลังกระบะมีอาวุธสงครามกองอยู่จำนวนมาก เช่น ปืนทาวอร์ 2 กระบอก (มีเลขทะเบียน) ปืนเอ็ม 16 จำนวน 4 กระบอก ปลายกระบอกปืนเอ็ม 16 ส่วนบน จำนวน 20 อัน แป้นปืน 4 อัน พลุ จำนวน 3 แท่ง และยังพบบัตรประจำตัวประชาชน บัตรเอทีเอ็ม และบัตรเครดิต รวมทั้งสมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย และเงินสดจำนวน 2,000 บาท
หลังตรวจค้นได้รายงานต่อ น.อ.ประจวบ มะลิทอง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด และ พ.ต.อ.ดเรศ กัลยา รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตราด รับรายงานให้รับทราบ เพื่อให้เดินทางมายังหน้า สภ.ไม้รูด ซึ่งที่ตั้งจุดสกัด และเข้าตรวจสอบอาวุธสงครามทั้งหมด
จากการสอบถาม นายชยุต ประเสริฐศรี ให้การรับสารภาพว่า ได้รับอาวุธสงครามมาจากประเทศเพื่อนบ้านซึ่งนำมาขึ้นฝั่งที่ท่าเรือชลาลัย บ้านคลองสน ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด และจะขนไปขายให้แก่ผู้ที่ได้สั่งซื้อใน จ.สระบุรี หรือในพื้นที่ใกล้เคียง โดยอ้างว่าขนอาวุธมาเพียงคนเดียว และกระทำมาแล้วหลายครั้ง
น.อ.ประจวบ กล่าวว่า เบื้องต้นเชื่อว่าผู้ต้องหาไม่ได้ทำงานคนเดียว แต่ยังไม่ยอมซัดทอดผู้ร่วมขบวนการ ซึ่งพบว่า อาวุธเหล่านี้บางส่วนมีทะเบียน ขณะที่ปืนทาวอร์มีใช้ในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการสอบสวนต่อไป สำหรับผลการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างทหารและตำรวจ รวมทั้งฝ่ายปกครองในครั้งนี้ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และจะได้เข้มงวดในการป้องกันปัญหาการลักลอบขนสิ่งของผิดกฎหมายเข้าประเทศต่อไป
ส่วน พ.ต.อ.ดเรศ กล่าวว่า จะทำการสอบสวนผู้ต้องหาเพื่อหาความเชื่อมโยงกับขบวนการค้าอาวุธว่าเป็นกลุ่มเดิมที่เคยถูกจับกุมเมื่อปีที่ผ่านมาหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบว่าผู้ต้องหาเป็นทหารหรือไม่ ซึ่งจะต้องทำการตรวจสอบต่อไปเช่นกัน