xs
xsm
sm
md
lg

สกัดยานรกทะลักหนัก “เชียงราย” ดึงเถ้าแก่ขนส่งทั้งจังหวัดทำ MOU สแกนพัสดุ-คนส่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เชียงราย - ผู้ว่าฯ เชียงราย นำทีมทหาร-ตำรวจ-ป.ป.ส. ดึงเถ้าแก่บริษัทขนส่งเอกชนทั้งจังหวัดร่วมทำ MOU ตรวจเข้มพัสดุภัณฑ์ทุกชิ้น-ตัวตนคนส่ง/คนรับ สกัดยานรกทะลักหนัก ขู่ละเลยมีสิทธิ์โดนเพิกถอนใบอนุญาต

วันนี้ (10 เม.ย.) ที่ห้องพญาพิภักดิ์ ศาลากลาง จ.เชียงราย นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานนำ พ.อ.สิงหนาท โลสุยะ ผู้แทนจากมณฑลทหารบกที่ 37, พ.ต.อ.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ ผู้แทนจาก ภ.จว.เชียงราย ร่วมนามในบันทึกข้อตกลงระหว่าง จ.เชียงราย สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ภาค 5 ฝ่ายปกครอง ตำรวจและทหาร กับผู้ประกอบการขนส่งพัสดุด่วนเอกชนจำนวน 16 ราย และการขนส่งพัสดุด้วยรถโดยสารประจำทางจำนวน 7 ราย ตามโครงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือการป้องกันและแก้ไขปัญหาการลักลอบส่งยาเสพติดทางระบบขนส่ง เพื่อร่วมกันเข้มงวดกวดขันในการส่งพัสดุภัณฑ์ต่างๆ ป้องกันการใช้เป็นช่องทางในการขนยาเสพติดเข้าสู่ชั้นในของประเทศโดยเพิ่มบทบาทของภาคเอกชนให้มากขึ้นกว่าเดิม และหากพบพัสดุภัณฑ์ต้องสงสัย หรือผิดกฎหมาย รวมทั้งข้อพิรุธให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ รวมทั้งอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปตรวจสอบด้วย ขณะเดียวกันก็ร่วมกิจกรรมรณรงค์ต่างๆ เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาการใช้ช่องทางพัสดุภัณฑ์ในการขนส่งยาเสพติดในระยะยาวด้วย

นายณรงค์ศักดิ์กล่าวว่า เนื่องจากยังคงมีความพยายามขนยาเสพติดเข้าสู่ชั้นในของประเทศอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลข่าวสารก็พบว่าไปจากเพียง 2 จังหวัดภาคเหนือ คือ จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่เท่านั้น โดยกลุ่มขบวนการใช้วิธีการที่หลากหลาย หนึ่งในนั้นคือพัสดุขนส่ง ดังนั้นจึงริเริ่มความร่วมมือโดยขอให้ผู้ประกอบการตรวจสอบอย่างเข้มข้น เริ่มตั้งแต่การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ให้ตระหนักถึงความสำคัญ หากต้องการการฝึกที่ดีก็สามารถประสานกับทาง ป.ป.ส.และจังหวัดได้ สิ่งสำคัญคือการตรวจบัตรประจำตัวประชาชนผู้ส่งพัสดุภัณฑ์ทุกคน และมีวิธีการตรวจดูให้ตรงกับบุคคลผู้ไปส่งจริง หากเป็นไปได้ให้ติดกล้อง เพื่อเก็บภาพเพื่อจะได้ติดตามบุคคลได้ถูกต้องหากเกิดกรณีพบยาเสพติดพัสดุภัณฑ์ เป็นต้น คาดหวังว่าหลังจากเอ็มโอยูนี้แล้วจะทำให้การลักลอบขนยาเสพติดด้านนี้ลดลง

ด้านนายสัมฤทธิ์ สวามิภักดิ์ ปลัดจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ที่ผ่านมาปรากฎข้อมูลข่าวสารหลายครั้งว่าขบวนการค้ายาเสพติดใช้พัสดุภัณฑ์ในการขนส่งทั้งทางไปรษณีย์ ระบบขนส่งเอกชน ฯลฯ แต่หน่วยงานภาครัฐยังไม่สามารถสร้างภาคีเครือข่ายกับผู้ให้บริการรับส่งพัสดุภัณฑ์ได้ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีเอ็มโอยูในครั้งนี้ และหลังจากลงนามกันแล้วทางจังหวัดฯ จะมีคณะกรรมการเพื่อออกตรวจสอบ โดยเริ่มต้นจากการนำรถเอกซเรย์จากด่านศุลกากรแม่สายทดลองสุ่มตรวจพัสดุภัณฑ์ตามจุดต่างๆ ต่อไปด้วย

ด้านเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ระบุว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีกฎหมายที่ระบุเอาไว้ชัดเจนว่าผู้ประกอบการต้องตรวจดูบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลข 13 หลักบนบัตรของผู้ส่งพัสดภัณฑ์ มีรายละเอียดผู้รับ ฯลฯ หากตรวจพบว่าผู้ประกอบการใดไม่ให้ความร่วมมือ หรือปล่อยปละละเลย ไม่เข้มงวดกวดขันเรื่องการป้องกันยาเสพติดดังกล่าวก็สามารถเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการได้ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมามีผู้ประกอบการที่ให้ความร่วมมือหลายรายจนทำให้สามารถตรวจยึดของกลางยาเสพติดรายใหญ่ๆ ได้หลายรายเช่นกัน

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ที่ประชุมยังมีการให้แสดงความคิดเห็น พบว่าปัญหาที่ยังต้องหาวิธีแก้ไขหลายเรื่อง เช่น การใช้บัตรประจำตัวประชาชนปลอม การให้ผู้อื่นไปส่งพัสดุภัณฑ์แทนผู้ส่งตัวจริง การใช้บุคคลที่มีตำแหน่งหน้าที่ในสังคมส่งพัสดุ และไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจบัตรด้วยดี เป็นต้น

ทั้งนี้ คดีล่าสุดที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดยาเสพติดจากการส่งทางพัสดุภัณฑ์รายใหญ่เกิดขึ้นในเขต อ.เมืองเชียงราย โดยเจ้าหน้าที่ตรวจยึดของกลางยาเสพติดชนิดไอซ์ได้จำนวน 172 ถุง น้ำหนักรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 201 กิโลกรัม บรรจุในกล่องพัสดุภัณฑ์จำนวน 7 กล่อง นำไปส่งที่เอกชนรับขนส่งรายหนึ่ง แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบจึงไปตรวจสอบทำให้คนร้ายซึ่งเป็นชาย 5-6 คนหลบหนีไปได้ทัน



กำลังโหลดความคิดเห็น