MGR Online - ผบ.ตร.-อธิบดีอัยการ สำนักงานคดียาเสพติด ร่วมแถลงผลงาน บช.ปส.จับยาเสพติดล็อตใหญ่ตามยึดทรัพย์เกือบ 900 ล้านบาท เผยคดีจับเครือข่ายยาพุ่งปรี๊ดกว่าพันคดี พบอาศัยตะแขบชายแดนลักลอบผลิตมีทั้งคนไทยและกลุ่มชาวเขา
วันนี้ (3 เม.ย.) เวลา 10.30 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ชั้น 2 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วย ดร.ชนิญญา ชัยสุวรรณ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดียาเสพติด พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วย ผบ.ตร. รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด บช.ปส. และผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร กอ.รมน., สำนักงาน ป.ป.ส., ปปง., ศรภ., กรมศุลกากร และดีเอสไอ ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 11 คดี ผู้ต้องหา 11 คน ตรวจยึดของกลาง ยาบ้า 1,783,263 เม็ด ไอซ์ 703.38 กิโลกรัม กัญชา 1,380 กิโลกรัม โคเคน 671 กรัม ยาอี 90 เม็ด โคคาอิน 800 กรัม คีตามีน 0.6 กรัม รวมมูลค่าราคายาเสพติดและทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้จำนวน 895,124,120 บาท เป็นการจับกุมในช่วงระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึง 2 เม.ย.ที่ผ่านมา
โดยการจับกุมครั้งนี้มีคดีที่สำคัญอย่างการจับกุมนายอำพล สิทธิบุญทา ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 จับกุมได้บริเวณด่านตรวจยานพาหนะชุมพร อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร พร้อมของกลางไอซ์ กว่า 700 กิโลกรัม ที่ซุกซ่อนใส่ลังกระดาษปะปนมากับผลไม้ท้ายรถบรรทุก และต่อมายังขยายผลไปจับกุมผู้ต้องหาอีก 3 ราย ในจำนวนนี้มีสัญชาติมาเลเซีย 2 ราย เป็นขบวนการค้ายาเสพติดที่มารอรับยาเพื่อลักลอบนำส่งข้ามไปยังประเทศมาเลเซียเพื่อส่งขายไปยังประเทศอื่น จากข้อมูลทางการข่าวทราบว่าเป็นขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่มีหัวหน้าขบวนการเป็นมาเฟียชาวไต้หวันเป็นเอเยนต์สั่งซื้อยาเสพติดส่งไปขายยังประเทศต่างๆ ซึ่งฝ่ายสืบสวนยังอยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงินของเครือข่ายนี้
ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำหนดเรื่องยาเสพติดเป็นนโยบายแห่งชาติ ที่ผ่านมามีความพยายามปราบปรามทุกวิถีทาง และทำอย่างเต็มที่มาโดยตลอด ทำให้เห็นได้ว่าสามารถจับกุมคดียาเสพติดและมีการยึดของกลางได้เป็นจำนวนมากในทุกครั้ง ส่วนความร่วมมือกับต่างประเทศยืนยันว่ามีความร่วมมือกันเป็นอย่างดีมาโดยตลอด
ขณะที่ พล.ต.ท.สมหมายเปิดเผยว่า เหตุที่ยังมียาเสพติดจำนวนมากทุกครั้งในการจับกุม เป็นผลจากการปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มผู้ผลิตยังคงมีการผลิตแล้วใช้ไทยเป็นทางผ่านส่งไปยังมาเลเซีย เพื่อส่งขายกระจายออกไปให้ลูกค้าอีกทอดหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม สำหรับสถิติการจับกุมยาเสพติดในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมาเทียบกับสถิติการจับกุมปัจจุบันพบว่ามีการจับกุมจำนวนคดีสูงขึ้นเป็น 1,019 คดี สามารถยึดยาเสพติดประเภทไอซ์ 1,019 กิโลกรัม เฮโรอีน 415 กิโลกรัม และกัญชาแห้ง 6,217 กิโลกรัม ส่วนยาบ้าจับกุมได้ประมาณ 16 ล้านเม็ด เมื่อนำไปเทียบกับการจับกุมในปี 2560 พบการจับกุม 453 คดี ยึดยาเสพติดประเภทไอซ์ 4,161 กิโลกรัม เฮโรอีน 195 กิโลกรัม กัญชาแห้ง 2,840 กิโลกรัม และยาบ้ากว่า 111 ล้านเม็ด
จากข้อมูลสถานการณ์ยาเสพติดในปัจจุบัน พบมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายใหม่เพิ่มขึ้น ทั้งคนไทยพื้นที่ราบและกลุ่มชาวเขา ใช้เส้นทางลักลอบลำเลียงยาเสพติดผ่านภาคกลางลงภาคใต้ ลักลอบนำออกนอกประเทศเพื่อนบ้านเพื่อส่งขายไปยังประเทศที่ 3
