xs
xsm
sm
md
lg

บช.ปส.ทลายเครือข่ายนักค้ายาบ้าเครือข่ายปทุม ของกลางกว่า 2 แสนเม็ด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


 
ผบช.ปส. พร้อมรอง ผบช.ทท. ขยายผลจับกุมแก๊งยาบ้าเครือข่ายปทุมธานี ขนมาจากเวียงแก่น จ.เชียงราย ยึดของกลางอีกกว่า 2 แสนเม็ด ระบุ ต้นเดือนหน้าจะมีการทลายเครือข่ายโรงงานที่มีกำลังผลิต 20 ล้านเม็ดต่อวัน

วันนี้ (8 เม.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พล.ต.ต.ทนัย อภิชาติเสนีย์ รอง ผบช.ปส และ เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสืบสวน กก.1 บก.ทท.1 ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายสมจิตต์ หรือ กบ แจ้งอรุณ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54/6 ซอยพหลโยธิน 59 ถนนพหลโยธิน แขวงและเขตสายไหม และนายส้ม หรือ หนู ศรีอยู่พุ่ม อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 ซอยสายไหม 46 ถนนสายไหม แขวงและเขตสายไหม พร้อมของกลางยาบ้า 202,000 เม็ด และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นฟีราโน่ สีน้ำตาล-ขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าร้านเมรี ถนนลำลูกกา 11 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ต่อเนื่องบริเวณหน้าร้าน พีท รีสอร์ต ซอยลำลูกกา 11/12 ถนนลำลูกกา 11 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 6 เม.ย. ที่ผ่านมา

พล.ต.ท.สมหมาย กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจ 191 และ บช.ปส. ในการปราบปรามยาเสพติด ซึ่งที่ผ่านมาได้บูรณาการทำงานร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง ลำพังเพียงหน่วยงานเดียวไม่สามารถทำงานได้ ซึ่งการจับกุมเครือข่ายของนายบัณฑิต แจ้งอรุณ ถือว่าเป็นเครือข่ายสำคัญและเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของทาง บช.ปส. ซึ่งมีความเชื่อมโยงทางเส้นทางการเงินกับขบวนการยาเสพติดที่ได้จับกุมไปก่อนหน้านี้ ซึ่งยาเสพติดล็อตนี้มาจาก อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ยาเสพติด ขณะนี้ถือได้ว่าเรากำลังเผชิญกับ กลุ่มเครือข่ายยาเสพติดระดับโลก ซึ่งมีกำลังทุนมหาศาลและมีแรงผลิตมาก ซึ่งหลังจากนี้ขอให้จับตาประมาณต้นเดือนหน้าจะมีการทลายเครือข่ายรายสำคัญ

ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสืบสวน กก.1 บก.ทท. สืบทราบว่า นายสมจิตต์ มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยลักลอบจำหน่ายยาเสพติด ให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และ มีนบุรี หนองจาก โดยใช้ บ้านเลขที่ 54/6 ซอยพหลโยธิน 59 ถนนพหลโยธิน แขวงและเขตสายไหม เป็นแหล่งเก็บซ่อนยา จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติหมายค้นต่อศาลจังหวัดธัญบุรี เพื่อเข้าทำการตรวจค้น โดยระหว่างนำกำลังไปตรวจค้นก็พบ นายส้ม ขี่ จยย. ออกมาจากบ้านดังกล่าว ด้วยท่าทีมีพิรุธ จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้นก็พบยาบ้าจำนวนหนึ่ง ซุกซ่อนในลำตัว จากนั้นชุดสืบสวนตำรวจท่องเที่ยวก็ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นจับกุมนายสมจิตต์ที่บ้านพัก

ก่อนรับสารภาพว่ามียาซุกซ่อนในป่าเพื่ออำพรางสายตา จึงได้นำกำลังไปค้นก็พบยาบ้าจำนวน 202,000 เม็ด ซุกซ่อนในป่าหลังบ้าน จึงได้คุมตัวมาสอบปากคำ จากการสอบสวน นายสมจิตต์ ให้การรับสารภาพ ว่า ยาเสพติดทั้งหมดเป็นของน้องชายของตน คือ นายบัณฑิต แจ้งอรุณ อายุ 32 ปี ซึ่งได้เสียชีวิตไปแล้วเมื่อวันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา จากการที่เสพยาเสพติดเกินขนาด ซึ่งเห็นว่ายาเสพติดของน้องตนก็เหลือ จึงได้นำมาขายให้หมด โดยขายให้กับลูกค้าประจำซึ่งเป็นวัยรุ่น เด็กแว้น ในพื้นที่มีนบุรี หนองจอก และ ลำลูกกา โดยทำมาได้ประมาณ 1 เดือน ส่วนน้องชายตนที่เสียชีวิตไปนั้นทำมาได้ประมาณ 3 - 4 ปี

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า กรณีที่สื่อสังคมออนไลน์ อย่างเพจ CSI LA โพสต์ข้อความระบุว่า หน่วยงานรัฐบาลมีการปกปิดข้อมูลว่า บริเวณชายแดนของประเทศไทยในฝั่งเพื่อนบ้าน มีโรงงานผลิตยาเสพติด 11 โรงงาน สามารถผลิตยาได้วันละกว่า 20 ล้านเม็ดต่อวัน และเกรงว่าในช่วงเทศกาลจะมีการทะลักลักลอบขนส่งเข้ามาในประเทศนั้น ในส่วนนี้ทาง ผบช.ปส. ได้กล่าวว่า เบื้องต้นข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดได้สืบทราบข้อมูลมาก่อนหน้านี้แล้ว และข้อมูลที่ได้ล่าสุดอัปเดตกว่าในเพจดังกล่าวไปมากพอสมควร ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจของกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดไทยได้ประสานข้อมูลการปฏิบัติร่วมกับตำรวจของประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อจัดการกับกลุ่มเครือข่ายดังกล่าวในรูปการสกัดกั้นทางการเงินแล้ว นอกจากนี้ ยังพบว่ากลุ่มเครือข่ายยาเสพติดทั่วโลกมีการปรับปรุงรูปแบบขององค์กรเป็นรูปแบบของอุตสาหกรรมยาเสพติด ทำให้มีมูลค่าการส่งออกที่สูงขึ้น และมีกำลังการผลิตที่เพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน ซึ่งตนเองอยู่ระหว่างการประสานขออนุมัติงบประมาณ เพื่อจัดตั้งด่านตรวจสอบยาเสพติดแบบเต็มรูปแบบ ซึ่งจะมีประสิทธิภาพในการคัดกรองยาเสพติดมากยิ่งขึ้น โดยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึงนี้ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดเฝ้าระวังและติดตามความเคลื่อนไหวสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด ทั้งภายในและจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดจะอาศัยช่วงเวลาดังกล่าวลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในประเทศมากเป็นพิเศษ เพราะคิดว่าเจ้าหน้าที่จะต้องแบ่งกำลังพลไปปฏิบัติหน้าที่ในจุดอื่นๆ

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ได้เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมในการดูแลนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า ทางกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้ออกมาตรการดูแลความปลอดภัยพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวเป็นที่เรียบร้อย โดยคาดว่าช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึงนี้จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศจำนวนประมาณ 9 แสนคน โดยส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวในกลุ่มชาวจีน รองลงมาเป็นชาวอินเดีย ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ตำรวจท่องเที่ยวออกปฏิบัติงานในการระดมกำลังทุกภาคส่วนเพื่อออกปฏิบัติการในการดูแลนักท่องเที่ยว และประชาชนอย่างจริงจัง โดยเน้นเรื่องการบริการเป็นหลัก จะมีการจัดส่งกำลังเข้าประจำจุดร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ครอบคลุมในพื้นที่สำคัญ ในแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น ทั้งนี้ ก็เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก สร้างความอบอุ่นใจ และป้องปรามเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น

สำหรับการตรวจสอบนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพื่อเป็นการป้องกันการก่อเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์นั้น หรือแฝงตัวมาในคราบนักท่องเที่ยวเพื่อก่อเหตุนั้น ในส่วนนี้ทางตำรวจท่องเที่ยวทำงานแบบบูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตำรวจสอบการเข้ามาพักของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาพักตามที่พักต่างๆ รวมถึงมีการตรวจสอบบุคคลที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหรือมีลักษณะเข้าข่ายการกระทำความผิด และมีหมายจับของทางอินเตอร์โพล ทั้งนี้ อยากจะฝากถึงประชาชน และนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้มีความมั่นใจด้านความปลอดภัยในทุกด้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันทำงานแบบบรูณาการในการป้องกันเหตุและดูแลนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์อย่างเต็มรูปแบบ




กำลังโหลดความคิดเห็น