ศรีสะเกษ- “ยายเฒ่า” กันทรารมย์ ยกมือไหว้ท่วมหัว วอน “นายกฯตู่” สั่งหยุดโค่นทำลายป่า “ดงหนองกะเตา” กว่า 2,200 ไร่ เพื่อปลูกไม้ยูคาฯแทน พร้อมขอคืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติ มาเป็นมรดกลูกหลานไทยสืบไป เผยทำมาหากินเก็บของป่าเลี้ยงชีพและขายมาแต่เด็กจนแก่ สุดเศร้าต้องมาถูกรัฐโค่นทำลายป่าที่รักหวงแหนเพื่อปลูกไม้ยูคาฯ
วันนี้ (2 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีกลุ่มชาวบ้านเมืองน้อย ต.เมืองน้อย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ นับพันคน นำโดย นายสุภาพ ดวงแก้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 บ้านเมืองน้อย รวมตัวกันต่อต้านคัดค้านหน่วยงานรัฐ สวนป่ากันทรารมย์ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) ที่นำรถแบ็กโฮโค่นทำลายป่าดงหนองกะเตา เนื้อที่ 2,255 ไร่ เพื่อปลูกไม้ยูคาลิปตัสแทน ทั้งที่เป็นป่าสมบูรณ์ตามธรรมชาติ เป็นแหล่งหาอาหารและใช้ประโยชน์ร่วมกันของชุมชน 4 ตำบล 2 จังหวัด ทั้งศรีสะเกษและอุบลราชธานี มาหลายชั่วอายุคนนานนับ 100 ปี ซึ่งที่ผ่านมาร้องเรียนไปหน่วยงานภาครัฐหลายแห่งแล้วแต่ไร้ผล ยังคงมีการโค่นทำลายป่าไปแล้วกว่า 300 ไร่ และชาวบ้านไร้ที่พึ่งเตรียมรวบรวมเงินกันเป็นค่าใช้จ่ายยื่นฟ้องศาลปกครอง เพื่อร้องขอให้ศาลสั่งคุ้มครองป่าชั่วคราว ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้ว นั้น
ล่าสุด ที่ป่าดงหนองกะเตา บ้านเมืองน้อย ต.เมืองน้อย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปตรวจสอบสภาพป่าดงหนองกะเตา ซึ่งได้มีกลุ่มชาวบ้านที่พากันมาหาเก็บของป่าเป็นประจำทุกวัน ได้นำทางเดินเข้าไปในป่าลึก ประมาณ 1 กิโลเมตร (กม.) ชาวบ้านมีอุปกรณ์ที่นำติดตัวไปด้วยคือ เสียม ตะกร้า และน้ำดื่ม พบว่า สภาพป่ายังคงมีความอุดมสมบูรณ์ มีผลผลิตของป่าอยู่จำนวนมาก เช่น มะยาง เห็ดป่าหลายชนิด จิ้งหรีด แมงจีนูน ผักติ้ว ซึ่งชาวบ้านได้พากันเก็บนำไปเป็นอาหารเลี้ยงตนเองและครอบครัว เมื่อยิ่งเดินลึกเข้าไปในป่ายิ่งพบความอุดมสมบูรณ์และของป่าจำนวนมาก แม้มีชาวบ้านจากหลายตำบลของ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ และ จ.อุบลราชธานี พากันมาหาของป่าที่บริเวณนี้เป็นประจำ แต่ธรรมชาติยังออกผลผลิตให้ชาวบ้านได้หาอยู่หากินอย่างต่อเนื่อง
ยายสอน ไชยราช อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 1 บ้านเมืองน้อย ต.เมืองน้อย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า หาของป่าในป่าดงหนองกะเตามานานตั้งแต่ยังเด็กจนกระทั่งอายุป่านนี้แล้ว โดยอาศัยป่าแห่งนี้เป็นครัว หรือแหล่งอาหารเลี้ยงชีพตัวเองและครอบครัว แต่เมื่อมาเห็นการทำลายป่าที่เรารักและหวงแหนเพื่อปลูกต้นยูคาลิปตัส ทำให้รู้สึกเสียใจมาก เพราะต้นยูคาฯ ไม่มีประโยชน์สำหรับพวกตนและชาวบ้านในเขต 4 ตำบล จึงต้องให้ป่าดงหนองกะเตา ซึ่งมีความสมบูรณ์มากตามธรรมชาติคงอยู่เช่นเดิม ชาวบ้านนอกสามารถเข้าไปทำมาหากินและเก็บของป่ามาขายได้ ไม่อยากให้ทำลายทิ้งไป
“พวกเราเป็นเพียงชาวบ้านนอกที่ยากไร้ ทำได้แค่ยกมือท้วมหัวกราบขอความเมตตาไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้ช่วยเหลือชาวบ้าน 4 ตำบล อ.กันทรารมย์ ด้วย โดยให้ยุติการทำลายป่าดงหนองกะเตา และให้รักษาป่าธรรมชาติป่าดงหนองกะเตาไว้เป็นป่าชุมชนของ ต.เมืองน้อย เพื่ออนุรักษ์เอาไว้เป็นสมบัติของลูกหลานไทยสืบต่อไป” ยายสอน กล่าวในตอนท้าย