อุดรธานี - ทำนาบนหลังคน! ทหาร ตำรวจ ฯลฯ บุกค้นบ้าน “เจ๊แสง” เจ้าหนี้โคตรโหด หลังชาวอำเภอหนองหานร้องศูนย์ดำรงธรรมอุดรธานีถูกโกงโฉนดที่ดินเล่นเล่ห์ยึดที่ดิน เผยจ่ายดอกไม่เขียนใบเสร็จให้ หลายรายใช้หนี้ครบพอไถ่ถอนกลับเจอหนี้เพิ่มเท่าตัว
จากกรณีชาวบ้านในพื้นที่ ต.หนองหาน อ.หนองหาน 12 ราย เข้าร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรธานีเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 61 ที่ผ่านมา ว่าได้รับความเดือดร้อนจากนางสาวแสงมณี มณีสิริคุณธรรม เจ้าหนี้นอกระบบชาวหนองหาน เรียกดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด กรณีนำที่ดินไปขายฝาก จากนั้นได้ยักยอกเอาที่ดินไปขาย โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และสำนักอัยการคุ้มครองสิทธิ ได้เชิญตัวเจ้าหนี้รายนี้มาไกล่เกลี่ยแต่ไม่ยอมมา
ล่าสุดวันนี้ (28 มี.ค.) กำลังเจ้าหน้าที่อัยการ ทหาร ปกครอง ตำรวจ และสรรพากร นำโดยนายศักดิ์ชัย นวลสุวรรณ รองอัยการคุ้มครองสิทธิ สำนักงานอัยการจังหวัดอุดรธานี ได้เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 115 ม.2 ถ.อภัยสำราญ ต.หนองหาน อ.หนองหาน ซึ่งเป็นบ้านของนางสาวแสงมณี มณีสิริคุณธรรม หรือ “เจ๊แสง” เจ้าหนี้นอกระบบ โดยอาศัยอำนาจ คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 13/2559 เรื่อง การป้องกันและปราบปรามการกระทําความผิดบางประการที่เป็นภยันตรายต่อความสงบเรียบร้อยหรือบ่อนทําลายระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
จากการเข้าตรวจค้นได้ตรวจยึดเอกสารเกี่ยวกับการจำนองที่ดินมาตรวจสอบ พร้อมคุมตัวมายังที่ว่าการอำเภอหนองหาน
นายศักดิ์ชัย นวลสุวรรณ รองอัยการคุ้มครองสิทธิ สำนักงานอัยการจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า ภายหลังเจ้าหนี้ที่ไม่ยอมเดินทางมาไกล่เกลี่ยตามคำเชิญ สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิจึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง สรรพากร เข้ามาตรวจเอกสารของนางสาวแสงมณี ขณะนี้ถือว่านางสาวแสงมณีมีความผิดตามคำสั่ง คสช. ในข้อ “ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา”
ก่อนหน้านี้ สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิได้ขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบเส้นทางการเงินของนางสาวแสงมณี และหลังจากเข้าตรวจยึดเอกสารในวันนี้แล้ว ขั้นตอนต่อไปพนักงานสอบสวนจะได้แจ้งข้อหาและดำเนินคดีเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราตามที่กฎหมายกำหนด เบื้องต้นทางเจ้าหนี้ไม่ยอมรับคดีอาญาที่เราแจ้งกล่าวหาไว้ ซึ่งจะต้องมีการต่อสู้กันต่อไป
ส่วนโอกาสที่ลูกหนี้จะได้รับที่ดินคืนนั้น ต้องขึ้นอยู่กับความยินยอมของนางสาวแสงมณี ว่าจะยินยอมหรือไม่ที่จะคืน ทางเราจะเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยให้อีกทางหนึ่ง
ด้านนางสาวแสงมณี มณีสิริคุณธรรม หรือเจ๊แสง บอกว่า หากชาวบ้านต้องการจะเอาโฉนดที่ดินคืนต้องดูสัญญา หากเวลาผ่านมานานก็เป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าอยากได้คืนจริงๆ ต้องมีการซื้อขายกันตามราคาซื้อขายปัจจุบัน ชาวบ้านที่นำที่ดินมาจำนองขายฝากกับตนนั้นพวกเขามาแบบสมัครใจทั้งหมด เมื่อเขามาขอความช่วยเหลือเราก็ช่วยเหลือ ส่วนอัตราดอกเบี้ยที่เราตกลงกันขึ้นอยู่ที่ความพอใจของลูกหนี้
อดีตข้าราชการครูบำนาญบอกว่า ตนมีที่ดิน 13 ไร่ นำไปจำไว้กับเจ๊แสงจำนวน 200,000 บาท โดยคิดดอกร้อยละ 5 บาทต่อเดือน ตนส่งทุกเดือน พอครบกำหนดจะขอไถ่ถอนคืนเจ๊แสงก็บอกให้รอก่อน ที่สำคัญเวลาจ่ายดอกจะไม่มีการเขียนใบเสร็จรับเงินให้ พอจะไปไถ่ถอนปรากฏว่าเจ๊แสงบอกว่าราคาไถ่คืนจำนวนถึง 500,000 บาท
ขณะที่ชาวบ้านกว่า 10 รายที่เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ในครั้งนี้บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า นางสาวแสงมณี หรือเจ๊แสง ทำอาชีพปล่อยกู้ลักษณะแบบนี้มานานแล้ว ชาวบ้านในอำเภอหนองหานจะรู้กัน หากเดือดร้อนเรื่องเงินก็จะเอาโฉนดที่ดินไปฝาก โดยคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5 ต่อเดือน ซึ่งเวลาไปทำสัญญาเอกสารต่างๆ ชาวบ้านกับเจ๊แสงจะไปที่สำนักงานที่ดินสาขาหนองหาน
แต่ช่วงที่เข้าไปเดินเรื่องกับพนักงานที่ดิน ชาวบ้านทุกรายจะไม่ได้เข้าไปในสำนักงานที่ดิน มีเพียงเจ๊แสงเข้าไปคนเดียว พอทำเสร็จเอกสารก็ไม่ให้ชาวบ้านคู่กรณีได้อ่าน พอถึงเวลาไถ่ถอนกลับพบว่าโฉนดนั้นเป็นการรับขายฝากไม่ใช่การจำนอง แต่หากอยากได้โฉนดคืนต้องนำเงินมาไถ่ถอนในราคาที่สูงถึงเท่าตัว
