- กระทรวงยุติธรรม จัดประชุม 27 หน่วยงาน แก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ อย่างยั่งยืน เพราะถือเป็นปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมของผู้ที่มีฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมสูง
วันนี้ (10 เม.ย.) เวลา 09.00 น. กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำ Flow chart แผนภาพแสดงลำดับขั้นตอนการดำเนินงานเพื่อแสดงให้เห็นภาพรวมของการบูรณาการ การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ สำหรับใช้เป็นแนวทางการปฏิบัติงานให้ครอบคลุมในทุกมิติ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 27 หน่วยงาน อาทิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย ทหาร กระทรวงการคลัง ธนาคารที่ดิน ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เป็นต้น
นายธวัชชัย กล่าวว่า ปัญหาหนี้นอกระบบเป็นเรื่องที่ต้องเร่งแก้ไข เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาบานปลายและได้เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน จึงเห็นสมควรจัดประชุมเพื่อหารือบทบาท ภารกิจของแต่ละหน่วยงาน โดยจัดทำ Flow chart แผนภาพแสดงลำดับขั้นตอนแสดงให้เห็นภาพรวมของการบูรณาการแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบ โดยจะร่วมกันหารือภาพรวมของปัญหา อุปสรรค พร้อมข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาในเชิงบูรณาการและนโยบาย และร่วมกันพิจารณาถึงบทบาทของแต่ละหน่วยงานกับการช่วยเหลือหนี้นอกระบบ ในประเด็น การบังคับใช้กฎหมาย การช่วยเหลืออำนวยความยุติธรรม การช่วยเหลือด้านแหล่งทุน และการช่วยเหลือสงเคราะห์ ให้เป็นแนวทางเดียวกันทั้งหมด
นายธวัชชัย กล่าวอีกว่า ปัญหาหนี้สินเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศ ที่เกิดจากหลายสาเหตุซึ่งมีความเชื่อมโยงกัน ทั้งปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ เช่น ภาวะเศรษฐกิจในประเทศ หรือ เศรษฐกิจของโลก ภัยธรรมชาติ สถานะที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด และปัจจัยที่ควบคุมได้ เช่น รายได้ การดำรงตน การป้องกันความเสี่ยง การรับรู้ แต่บทสุดท้ายของผู้ที่ตกเป็นหนี้จะอยู่ในภาวะที่ต้องจำยอมทำสัญญาที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ เพราะต้องการเงินและเมื่อถูกฟ้องร้องดำเนินคดีก็ไม่มีความรู้ด้านกฎหมาย ทำให้อยู่ในฐานะที่เสียเปรียบตั้งแต่ต้นธารของกระบวนการยุติธรรม รวมถึงยังพบในบางจังหวัด เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปช่วยไกล่เกลี่ยระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ แต่เกิดปัญหาตามมา เพราะเป็นหนี้นอกระบบ เนื่องจากไม่บังคับใช้กฎหมายดำเนินคดีกับเจ้าหนี้ ใน ม.157 ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งต้องมีการพิจารณาแก้ไขต่อไป นอกจากนี้ ควรมีการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการปล่อยเงินกู้ของนายทุนหากทำเป็นธุรกิจจะได้มีการจัดระบบให้ถูกต้อง
นายธวัชชัย กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ เพราะเป็นปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมของผู้ที่มีฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมสูงกว่า คือ “เจ้าหนี้” และผู้มีฐานะด้อยกว่าคือ “ลูกหนี้” ซึ่งเกี่ยวข้องกับภารกิจของกระทรวงยุติธรรมโดยตรง และกระทรวงยุติธรรมได้เข้ามาแก้ไขปัญหา ด้วยมาตรการดังต่อไปนี้ 1. ด้านกฎหมาย ได้แก้ไขปรับปรุง พ.ร.บ. ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560 ให้มีบทลงโทษสำหรับผู้ปล่อยเงินกู้โดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด (ร้อยละ 15 ต่อปี) ให้มีโทษจำคุกไม่เกินสองปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท 2. ด้านการบังคับใช้กฎหมาย หากเป็นกรณีเจ้าหนี้ผู้มีอิทธิพลรายใหญ่ ดีเอสไอ ได้เข้าไปสืบสวนสอบสวน และประสานกับกรมสรรพากรเมื่อดำเนินมาตรการทางภาษี และ 3. ด้านการช่วยเหลืออำนวยความยุติธรรม เพราะลูกหนี้จะถูกเอาเปรียบในเรื่องดอกเบี้ย การทำสัญญา ซึ่งได้สั่งการให้ ดีเอสไอ โดยศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม จัดให้คำปรึกษาแนะนำทางด้านกฎหมาย รับเรื่องร้องเรียนทั้งจากประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดคณะทำงานลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อประกอบการดำเนินคดีด้วยมาตรการทางอาญา ประกอบการให้ความช่วยทางแพ่ง การพิจารณาช่วยเหลือด้านทนายความตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนยุติธรรม