ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – ภาคประชาชนเชียงใหม่จัดเวทีเสวนา พร้อมรวมตัวจัดตั้ง“ภาคีเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ” ประกาศเดินหน้าเรียกร้องให้ล้มเลิกโครงการก่อสร้างบ้านพักศาลอุทธรณ์ภาค 5 ชายป่าเชิงดอยสุเทพ แล้วย้ายไปสร้างที่ใหม่ ชี้อาจถูกกฎหมายแต่ไม่เหมาะสม ขณะเดียวกันจัดพิธีกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล วิงวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวังดลใจเจ้าของโครงการยอมถอย หากยังไม่ได้ผลจ่อเผาพริกเผาเกลือสาปแช่ง
วันนี้(24 มี.ค.61) ที่ห้องประชุมหอพักสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จังหวัดเชียงใหม่ เครือข่ายภาคประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ อาทิ ภาคีคนฮักเชียงใหม่,เครือข่ายเขียวสวยหอม,ชมรมจักรยานวันอาทิตย์ โรงเรียนสืบสานภูมิปัญญาล้านนา และเครือข่ายรักษ์แม่ปิง เป็นต้น ร่วมกันจัดการเสวนาระดมความคิดเห็น “ขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ” กรณีโครงการก่อสร้างอาคารศาลอุทธรณ์ภาค 5 และที่พักข้าราชการตุลาการ ที่มีการใช้พื้นที่ของกรมธนารักษ์ ในตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งตั้งบริเวณเชิงดอยสุเทพและใกล้กับเขตอุทยานสุเทพ-ปุย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของการสร้างบ้านพักที่ตั้งอยู่บนแนวลาดชันของภูเขาและลักษณะพื้นที่ดูคล้ายยื่นเข้าไปในพื้นที่ป่า
ทั้งนี้จากการเสวนาเบื้องต้นได้ข้อสรุปร่วมกันว่า โครงการก่อสร้างบ้านพักดังกล่าวดำเนินการในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากดอยสุเทพถือเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะสำหรับชาวเชียงใหม่ ดังนั้นการสร้างบ้านพักดังกล่าวนั้นถือว่าไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าจะเป็นการดำเนินการที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ในส่วนของภาคประชาชนยังคงเห็นตรงกันว่าไม่สมควรและไม่เหมาะสม ซึ่งยังมีพื้นที่อื่นๆ อีกมากที่เหมาะสมกว่าจึงอยากเรียกร้องให้ยุติโครงการนี้แล้วย้ายไปสร้างที่อื่นแทน
นอกจากนี้จากการเสวนาและระดมความคิดเห็นในครั้งนี้ เครือข่ายภาคประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ ยังได้ข้อสรุปร่วมกันในการรวมตัวกันจัดตั้งเป็น “ภาคีเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ” โดยเบื้องต้นมีเป้าหมายเพื่อเคลื่อนไหวเรียกร้องกรณีโครงการนี้และเพื่อพิทักษ์รักษาพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ซึ่งหลังจากการเสวนาแล้วเครือข่ายภาคประชาชนได้ร่วมกันเดินขบวนไปยังบริเวณสันเขื่อนอ่างเก็บน้ำแม่จอกหลวง ซึ่งอยู่ติดกับสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี และสามารถมองเห็นพื้นที่โครงการก่อสร้างบ้านพักดังกล่าวได้อย่างชัดเจนจากระยะไกล โดยภาคประชาชนได้ร่วมกันทำการแผ่เมตตาและกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล เพื่อหวังให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลใจให้ทางเจ้าของโครงการยุติการก่อสร้างและย้ายไปใช้พื้นที่อื่น ซึ่งหากยังไม่เป็นผลในโอกาสหน้าอาจจะทำพิธีเผาพริกเผาเกลือสาปแช่งต่อไป
ดร.ทนง ทองภูเบศร์ ตัวแทนภาคีเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางกลุ่มได้ข้อสรุปร่วมกันว่าจะส่งตัวแทนเข้าพบผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 เพื่อหารือและขอให้เป็นตัวกลางในเจรจากับทางเจ้าของโครงการและดำเนินการตามที่ผู้บัญชาการทหารบกบอกว่าโครงการนี้ต้องฟังเสียงประชาชนด้วย ซึ่งทางภาคีเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เห็นตรงกันว่าโครงการนี้จะต้องยุติการก่อสร้างและย้ายไปก่อสร้างในพื้นที่อื่นแทน แม้ว่าจะต้องทำให้สูญเสียงบประมาณกว่า 300 ล้านบาท จากการก่อสร้างบ้านพักกว่า 40 หลังดังกล่าวที่ดำเนินการไปแล้ว แต่ในฐานะประชาชนที่เป็นผู้เสียภาษีเห็นว่าคุ้มค่ากับการที่จะได้พื้นป่าดอยสุเทพกลับคืนมา ทั้งนี้ยืนยันว่าจะเคลื่อนไหวเรียกร้องเรื่องนี้จนถึงที่สุดเพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างให้หน่วยงานอื่นกระทำในลักษณะเดียวกันนี้อีก
รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันที่ 26 มี.ค.61 ทางเครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดเชียงใหม่และภาคีเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เตรียมที่จะเข้ายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่และอธิบดีกรมธนารักษ์ ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ โดยในส่วนของหนังสือที่ยื่นถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ จะเป็นการขอข้อมูลข่าวสารราชการและให้ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างดังกล่าว เช่น การขออนุมัติใช้พื้นที่ราชพัสดุ,การพิจารณาโครงการ,การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยในเชิงวิศวกรรม เป็นต้น
ส่วนหนังสือที่ยื่นถึงกรมธนารักษ์ จะเป็นการขอให้ปรับปรุงระเบียบการใช้พื้นที่ราชพัสดุและการแก้ไขปัญหาทัศนอุจาดของดอยสุเทพ โดยขอไม่ให้มีการอนุญาตใช้ที่ดินราชพัสดุที่อยู่ติดกับพื้นที่ป่าอนุรักษ์รวมทั้งมีศักยภาพให้เป็นพื้นที่สีเขียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการก่อสร้างบ้านพักตุลาการที่อยู่ระหว่างการดำเนินการนี้ ให้กรมธนารักษ์ในฐานะเจ้าของที่ดินพิจารณาเพิกถอนการอนุญาตและปรับปรุงให้เป็นสภาพป่าเชิงเขาเช่นเดิม .