ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 นำทีมตรวจโครงการก่อสร้างบ้านพักศาลอุทธรณ์ภาค 5 ป่าเชิงดอยสุเทพ หลังถูกประชาชนและหลายฝ่ายรุมวิพากษ์วิจารณ์หนัก-เรียกร้องให้ยุติและย้ายพื้นที่ก่อสร้าง ก่อน ผบ.ทบ.สั่งชะลอโครงการไว้ก่อนในวันเดียวกัน
จากกรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากเกี่ยวกับประเด็นความเหมาะสมของโครงการก่อสร้างอาคารศาลอุทธรณ์ภาค 5 และที่พักข้าราชการตุลาการ ที่มีการใช้พื้นที่ของกรมธนารักษ์ในตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งตั้งบริเวณเชิงดอยสุเทพและใกล้กับเขตอุทยานแห่งชาติสุเทพ-ปุย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของการสร้างบ้านพักที่ตั้งอยู่บนแนวลาดชันของภูเขาและลักษณะพื้นที่ดูคล้ายยื่นเข้าไปในพื้นที่ป่า ซึ่งสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนแม้ในระยะไกลและยิ่งเห็นชัดเจนยิ่งขึ้นจากภาพถ่ายทางอากาศ
ประเด็นนี้เคยเป็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อช่วงกลางปี 2559 ที่เริ่มมีผู้สังเกตเห็นการก่อสร้าง และล่าสุดกลับมาเป็นประเด็นที่มีผู้คนให้ความสนใจอย่างมากอีกครั้ง รวมทั้งมีการเคลื่อนไหวเตรียมยื่นหนังสือร้องขอให้มีการชี้แจงรายละเอียดการดำเนินการโครงการ และเรียกร้องให้ยุติโครงการดังกล่าว พร้อมย้ายไปสร้างที่ใหม่ที่มีความเหมาะสมกว่า
ล่าสุดวันนี้ (20 มี.ค. 61) พลตรี สาธิต ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 ได้เดินทางเข้าพบและหารือร่วมกับผู้บริหารศาลอุทธรณ์ภาค 5 เกี่ยวกับกรณีโครงการก่อสร้างบ้านพักศาลที่กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์และตำหนิเกี่ยวกับความเหมาะสมของพื้นที่ตั้งโครงการ
ก่อนการเข้าพบหารือในครั้งนี้มีกระแสข่าวว่าผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดเชียงใหม่ เตรียมที่จะอาศัยอำนาจสั่งการให้ระงับการก่อสร้างโครงการดังกล่าวไว้ก่อนแล้วเป็นการชั่วคราวเพื่อตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้องให้ชัดเจนอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากการเข้าพบมีรายงานระบุว่าทางศาลยืนยันว่าโครงการดังกล่าวดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายทุกขั้นตอนและจะดำเนินโครงการต่อแม้ว่าจะมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับความเหมาะสมก็ตาม ขณะที่ทางด้านผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 ไม่ได้มีการออกคำสั่งตามที่เป็นกระแสข่าวก่อนหน้าแต่อย่างใด
แต่ต่อมา พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ก็ได้ออกมาระบุว่าได้สั่งให้ชะลอการก่อสร้างโครงการดังกล่าวไว้ก่อนแล้ว
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เมื่อเดือน มิ.ย. 59 ศาลอุทธรณ์ภาค 5 แถลงชี้แจงกรณีดังกล่าวว่าโครงการก่อสร้างดังกล่าวสืบเนื่องมาจากศาลอุทธรณ์ภาค 5 ย้ายที่ทำการจากกรุงเทพฯ มาอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งได้ขอใช้พื้นที่อาคารร่วมกับศาลแขวงเชียงใหม่ และศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ ที่ตั้งอยู่ที่บริเวณสี่แยกศาลเด็ก ในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งทำให้สถานที่คับแคบเนื่องจากมีปริมาณคดีและประชาชนที่เข้ามาติดต่อราชการเป็นจำนวนมาก ประกอบกับศาลยุติธรรมในจังหวัดเชียงใหม่ไม่มีที่พักเพียงพอสำหรับข้าราชการ จึงได้ขอใช้ที่ราชพัสดุที่อยู่ในความดูแลของมณฑลทหารบกที่ 33 เนื้อที่ 147 ไร่ 3 งาน 41 ตารางวา ในตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ และได้รับอนุญาตตั้งแต่ปี 2549 เพื่อก่อสร้างอาคารที่ทำการศาล พร้อมบ้านพัก 47 หลัง และอาคารชุด 13 หลัง งบประมาณทั้งสิ้นกว่า 900 ล้านบาท ซึ่งเพิ่งได้รับงบประมาณเมื่อปี 2556 และเริ่มดำเนินการเมื่อปี 2557
ขณะเดียวกันย้ำว่าพื้นที่ก่อสร้างดังกล่าวไม่ได้อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย แต่เป็นที่ราชพัสดุที่ได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่แล้ว ขณะที่การดำเนินการก่อสร้างได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้มีผลกระทบต่อสภาพพื้นที่เดิมน้อยที่สุด ซึ่งพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตมีลักษณะเป็นแนวยาวจากถนนเลียบคลองชลประทานลึกเข้าไปในพื้นที่ที่อยู่ระหว่างศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์กับหมู่บ้านสวัสดิการทหารบก โดยได้เว้นพื้นที่ 58 ไร่จากจุดสูงสุดของพื้นที่ที่รับอนุญาตไว้ด้วยการไม่ก่อสิ่งปลูกสร้างใดๆ เพื่อคงสภาพพื้นที่ที่มีต้นไม้อยู่เดิมให้มากที่สุด และบางส่วนมีการขุดย้ายนำไปดูแลเพื่อพร้อมนำกลับมาปลูก