กาญจนบุรี - หัวหน้าอุทยานฯ เขือนศรีนครินทร์ นำกำลัง จนท. บุกยึด-เพิกถอน สำนักสงฆ์พุทธสถานบุญญพลัง ออกจากสารบบพุทธอุทยานหลังทำผิดเงื่อนไขก่อสร้างอาคารริมอ่างเก็บน้ำ
วันนี้ (24 มี.ค.) นายฐิติ โสมภีร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านป่ง) เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.13 (แสวงป่า) เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.16 (แม่พลู)เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอศรีสวัสดิ์ เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.)และเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ทหารกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์
ได้ร่วมกันออกตรวจสอบปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ตามหนังสือสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ด่วนที่สุด ซึ่งเป็นคำสั่งเพิกถอนให้สำนักสงฆ์พุทธสถานบุญญพลัง ที่ก่อสร้างอยู่กลางป่าริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ บนเนื้อที่ 20 ไร่ 2 งาน สำหรับสำนักสงฆ์ดังกล่าวตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านท่าสนุ่น หมู่ 4 ต.ด่านแม่แฉลบ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี การเดินทางไม่สามารถนำรถยนต์เข้าไปได้โดยจะต้องไปทางเรือเท่านั้น
เมื่อไปถึงพบพระอาจารย์สมฤทธิ์ รัตนญาโณ ( ธรรมกะ บุญญพลัง)เจ้าสำนักสงฆ์พุทธสถานบุญญพลัง รวมทั้ง พระนธีกัสะปะ ศรัทธาพันธุ์ รวมทั้งพระลูกวัดอีกประมาณ 5 รูป นอกจากนี้ยังมีอุบาสกอุบาสิกา ที่เข้าไปปฏิบัติธรรมอีกจำนวนหนึ่งด้วย
ต่อมานายฐิติ โสมภีร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ได้แจ้งจุดประสงค์ พร้อมกับนำเอกสารบันทึกข้อความด่วนที่สุด เรื่องขอเพิกถอนโครงการพุทธอุทยานในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ระยะที่สอง ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ มาแสดงและแจ้งให้พระสงฆ์ อุบาสก อุบาสิกา หรือบุคคลอื่นใดออกจากพื้นที่ และดำเนินการตามกฎหมายให้เป็นไปตามเงื่อนไขข้อตกลงอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้นายฐิติ โสมภีร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เปิดเผยว่า สำนักสงฆ์พุทธสถานบุญญพลัง ได้กระทำผิดเงื่อนไขและข้อตกลงของโครงการพุทธอุทยานในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ซึ่งอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ได้มีหนังสือด่วนที่สุดที่ ทส..ลงวันที่ 5 พ.ย.60 แจ้งพระนธีกัสปะ ปญญพโล ผู้ดูแลสำนักสงฆ์ได้ทราบและรับหนังสือดังกล่าวไปแล้ว
โดยในวันดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจสอบพบว่า สำนักสงฆ์พุทธสถานบุญญพลัง ยังไม่ได้ปฏิบัติตามหนังสืออุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ส่วนพื้นที่ของของสำนักสงฆ์จำนวน 20 ไร่ 2 งาน มีการก่อสร้างอาคารต่างๆ รวม 8 รายการ ประกอบด้วย 1.กุฏิพร้อมห้องน้ำ 2.โรงครัว 3.ศาลาปฏิบัติธรรม 4.โรงเครื่องปั่นไฟ 5.ฐานพระองค์ใหญ่ (พระประธาน) 6.แท้งน้ำ 7.พระพุธรูป สูง 15 เมตร และ 8. ที่พักอีก 3 หลัง
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบสำนักสงฆ์สร้างฐานพระองค์ใหญ่ (พระประธาน) มีขนาดใหญ่เกินความจำเป็น และผิดเงื่อนไขของโครงการพุทธอุทยาน เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้ระงับการก่อสร้างเอาไว้ก่อน แต่ผลปรากฏว่าทางสำนักสงฆ์ไม่ยอมปฏิบัติ และยังมีการดำเนินการสร้างฐานพระองค์ใหญ่อย่างต่อเนื่อง และนอกจากนี้ยังมีไม้แปรรูป และสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมตรวจยึดไม้แปรรูปและสัตว์ป่าคุ้มครองโดยได้ดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว
ซึ่งต่อมานายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้พิจารณาแล้วว่า ที่พักสงฆ์พุทธสถานบุญญพลัง ได้เข้าร่วมโครงการพุทธอุทยานในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ระยะที่สอง ปีงบประมาณ พ.ศ.2559-2563 แต่มีการกระทำผิดเงื่อนไขข้อตกลงของโครงการส่งเสริมให้วัดหรือสำนักสงฆ์ช่วยงานด้านป่าไม้ ที่ให้สำนักสงฆ์เข้าร่วมโครงการรับทราบและถือปฏิบัติ จำนวน 9 ข้อ
ดังนั้นเพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปตามเงื่อนไขข้อตกลงและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จึงลงนามให้เพิกถอนโครงการส่งเสริมให้ที่พักสงฆ์พุทธสถานบุญญพลัง ช่วยงานด้านป่าไม้ตามโครงการพุทธอุทยานในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ พร้อมทั้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งให้พระสงฆ์ อุบาสก อุบาสิกา ออกจากพื้นที่
สำหรับพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 และพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 คณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันพิจารณาแล้วเห็นพร้อมกันว่า การกระทำดังกล่าวของพระอาจารย์สมฤทธิ์ รัตนญาโณ ( ธรรมกะ บุญญพลัง)เจ้าสำนักสงฆ์พุทธสถานบุญญพลัง และพระนธีกัสปะ ปญญลโพ กับพวกและบริวาร เป็นการกระทำผิดฐาน ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือยึดถือ หรือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่น ตามความในพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 54 และมาตรา 73 และฐานยึดถือ หรือครอบครองที่ดิน รวมตลอดถึงก่นสร้าง แผ้วถาง ตามความในพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 มาตรา 16 (1)และมาตรา 24