xs
xsm
sm
md
lg

ศิษย์วัดเมตตาธรรม ยันไม้ทุกชนิดมีเอกสารถูกต้อง เผยเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบกระทบหนักนักท่องเที่ยวลดเข้าวัด(ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - ศิษย์วัดเมตตาธรรม ยันไม้ทุกชนิดมีเอกสารถูกต้อง เผยเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบกระทบหนักนักท่องเที่ยวลดเข้าวัดช่วงปีใหม่เกือบ 90% ด้านหัวหน้าพญาเสือ พร้อมให้ความเป็นธรรม ยันหากพบเข้าข่ายพุทธพาณิชย์ ต้องตรวจสอบ



จากกรณี นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือ (กรมอุทยานฯ) นำกำลังเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายเข้าตรวจสอบไม้ท่อน และไม้แผ่นภายในวัดเมตตาธรรม โพธญาณ หมู่ 7 ต.หนองหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และได้มีการอยัดไม้กระยาเลย จำนวน 37 ท่อน ไม้แปรรูป 6,360 แผ่น ปริมาตรรวมกัน 1,167.51 ลบ.ม. มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท เอาไว้ตรวจสอบ และให้พระภิกษุเย็นหมง เจ้าอาวาส นำเอกสารการได้มาของไม้ทั้งหมดมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ภายใน 30 วัน ตามที่ได้เสนอข่าวไปตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค.60 แล้วนั้น

ล่าสุด วันนี้ (8 ม.ค.) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือ (กรมอุทยานฯ) พร้อมด้วยนายวัลลภ พิสุทธิ์พิเชษฐ์ ผอ.ส่วนสัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายทศพร รักจันทร์ รรท.ผอ.ส่วนฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ สบอ.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจากหลายฝ่ายเดินทางไปตรวจสอบเอกสารการได้มาของไม้ทั้งหมด หลังจากครบกำหนดเวลานัดหมายภายใน 30 วัน โดยมี นายสมพล เสถียรุจิกานนท์ ลูกศิษย์ และคนใกล้ชิดพระภิกษุเย็นหมง นำพาตรวจสอบ

นายสมพล เสถียรุจิกานนท์ กล่าวว่า ตนรู้จักเจ้าอาวาสมาตั้งแต่สมัยท่านย้ายมาตั้งแต่วันแรกๆ จึงพอรู้ข้อมูลตั้งแต่เริ่มที่จะสร้างวัดที่บริเวณนี้ และแม้กระทั่งการจัดตั้งพื้นที่รวมทั้งเอกสารสิทธิของการจัดตั้งวัด สำหรับไม้ที่พบทั้งหมดนั้นเป็นไม้ที่ลูกศิษย์ลูกหาที่ศรัทธานำมาถวาย พร้อมใบเอกสารที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ ซึ่งเราพร้อมที่จะชี้แจงเพราะว่ามันมีเอกสารการเดินทางของไม้ ซึ่งเอกสารที่มีอยู่นั้นอาจจะมีมากกว่าปริมาณของไม้ที่มีอยู่ด้วยซ้ำไป เพราะไม้นั้นซื้อมาเยอะมาก

ลูกศิษย์คนไหนศรัทธาก็นำมาถวายซึ่งก็แล้วแต่คนไหนจะนำมาถวาย จะได้ไม้มาจากที่ไหนก็แล้วแต่ แต่ได้ระบุว่า นำมาลงที่วัดเมตตาธรรมโพธิญาณ สำหรับไม้ทั้งหมดนั้นทางวัดต้องการสร้างเป็นศาสนสถาน ซึ่งหลวงพ่อท่านมีจิตวิญญาณอยู่ว่าคนไทยของเราชอบไปท่องเที่ยวประเทศจีน ส่วนใหญ่จะนำเม็ดเงินไปทิ้งที่ประเทศจีนเยอะมาก หลวงพ่อจึงคิดว่าถ้าหากประเทศไทยมีวัดจีน ที่สร้างขึ้นมาด้วยไม้เสียเองเงินก็จะไม่รั่วไหลไปยังต่างประเทศ ดังนั้น นอกจากลูกศิษย์จะนำไม้มาถวายแล้ว การที่ทางวัดจะซื้อไม้จึงต้องซื้อมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย 100 เปอร์เซ็นต์ และเริ่มสร้างวัดด้วยไม้ดังกล่าวมาเรื่อยๆ แต่ในช่วงระยะหนึ่งเกิดเศรษฐกิจของไทยตกต่ำ ซึ่งนักธุรกิจที่ศรัทธาจึงนำเหล็กมาบริจาค จึงสร้างโกดังที่ทำด้วยเหล็กเพื่อป้องกันไม่ให้ไม้ที่มีอยู่เสียหาย

ดังนั้น ไม้ที่มีอยู่จึงไม่ค่อยได้นำมาใช้ จะมีบางส่วนทีนำไปใช้เกี่ยวกับการสร้างองค์พระ รวมทั้งเสา และเจ้าแม่กวนอิม สำหรับเอกสารการได้มาของไม้ทางวัดได้มอบให้แก่เจ้าหน้าที่ไปทั้งหมดแล้ว คงเหลือแค่เพียงให้ผู้เชี่ยวชาญมาวิเคราะห์ชนิดของไม้ และชี้แจงว่า ไม้แต่ละชนิดนั้นกองอยู่บริเวณไหนเท่านั้น สำหรับพื้นที่ที่ขออนุญาตสร้างวัดนั้นก็ไม่มีปัญหาเนื่องจากเรามีเอกสาร ส.ป.ก.ที่ถูกต้อง ซึ่งประเทศไทยของเรานี่แปลก เพราะที่ดินทั้งหมดนั้นเป็นของรัฐ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่การดูแลของหน่วยงานรัฐนั้นมักดูแลซ้ำซ้อนกัน

“เรายอมรับว่าตั้งแต่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามาตรวจสอบไม้ที่มีอยู่ภายในวัด ได้ส่งผลกระทบต่อทางวัดเป็นอย่างมาก เฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา จำนวนของนักท่องเที่ยวที่มาทำบุญนั้นลดลงมากถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทางวัดเองก็มีภาระค่าใช้จ่าย ค่าช่าง ค่าไฟเป็นจำนวนมากมาย ตนคนหนึ่งที่เป็นลูกศิษย์ในจำนวนหลายร้อยคนที่ทราบความเป็นมาของวัด แต่บังเอิญตนเป็นคนจังหวัดกาญจนบุรี จึงรู้รายละเอียดของวัดมา โดยหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเสร็จแล้ว หลังจากนี้ ความจริงก็จะปรากฏขึ้นมา ซึ่งไม้ที่มีอยู่ส่วนใหญ่แล้วนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เขมร พม่า ลาว รวมทั้งประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเราจะทำการชี้แจงต่อสื่อมวลชนอีกครั้งหนึ่งในภายหลัง”

ด้าย นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือ (กรมอุทยานฯ) เปิดเผยว่า หลังจากที่เราเข้ามาตรวจสอบ และอายัดไม้เอาไว้ โดยเมื่อวันที่ 28-29 ธ.ค.60 ที่ผ่านมา เราได้ทำการถอนอายัดไม้ไปแล้วประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ ยังคงเหลือไม้ที่ต้องตรวจสอบความถูกต้ออยู่อีกประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งการเข้ามาตรวจสอบไม้ที่อายัดไว้ในวันนี้เราได้ชี้แจงต่อคณะกรรมการวัดว่า

ในส่วนของเอกสารที่นำมาแสดงต้องชัดเจนเพราะเราไม่ได้อายัดไม้ทั้งหมด และยังมีไม้อยู่บางส่วนที่เราไม่ได้อายัดเอาไว้ โดยจะนำเอาเอกสารของไม้ที่เราไม่ได้อายัดมาแสดงเป็นเอกสารที่เราอายัดเอาไว้ไม่ได้ และจะได้มีการพูดคุยรายละเอียดให้เข้าใจกันอีกครั้งหนึ่ง สำหรับเอกสารเราไม่ได้ขอให้ทางวัดนำมาแสดงทั้งหมด แต่ขอให้นำมาแสดงเฉพาะในส่วนของไม้ที่เป็นที่ต้องสงสัยเท่านั้น

ที่ผ่านมา เราได้เดินทางไปดูไม้ที่นำเข้ามาทางด่านแม่สอด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ยืนยันชัดเจนว่า ไม้ที่มีลักษณะเจาะด้านข้างนั้นไม่เคยมีการนำเข้า ซึ่งไม้ที่มีอยู่นั้นมีลักษณะคล้ายกับที่มีอยู่ภายในวัด สำหรับการเข้ามาดำเนินการตรวจสอบในวันนี้หากพบว่าไม้ส่วนไหนผิดก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนไหนถูกต้องเราก็จะทำการถอนอายัด ซึ่งเราก็ต้องให้ความเป็นธรรมต่อทางวัดด้วย

ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบนั้นส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยว ซึ่งตนมองว่าจุดนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างแน่นอน เพราะประชาชนที่ศรัทธาก็ยังคงเดินทางมากราบไหว้ได้ตามปกติ แต่ถ้าหากบอกว่านักท่องเที่ยวลดลงทำให้รายได้ลดลงไปด้วย จุดนี้น่าจะเข้าข่ายพุทธพาณิชย์มากกว่า

หากเป็นเช่นนั้นจริงผิดอย่างแน่นอน เพราะการที่รัฐอนุญาตให้เป็นเขตพุธอุทยานฯ จะต้องดำเนินการเกี่ยวกับพระพุธศาสนาเท่านั้น ทำในเชิงพาณิชย์ไม่ได้ หากเป็นจริง ส.ป.ก.และสำนักงานพระพุธศาสนา จะต้องเข้ามาตรวจสอบ





กำลังโหลดความคิดเห็น