กาฬสินธุ์ - เผยผู้เสียชีวิตเหยื่อรถบัสทัวร์พลิกคว่ำวังน้ำเขียวส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก ขณะที่ผู้ว่าฯ เปลี่ยนสถานที่รับศพเป็น 2 จุด คือ วัดพงพยอม กับ วัดป่าพุทธมงคล พร้อมระดมโลงเย็นช่วยเหลือ ด้าน คปภ.เร่งสรุปเอกสารส่งบริษัทอาคเนย์ประกันภัยจ่ายค่าสินไหมช่วยเหลือ
วันนี้ (22 มี.ค.) เวลา 12.30 น. ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์แจ้งว่า ที่สำนักงานเทศบาลตำบลห้วยโพธิ์ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เรียกประชุมผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานขนส่งจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยจังหวัดกาฬสินธุ์ และนายกเทศมนตรีตำบลห้วยโพธิ์ เพื่อเตรียมรับศพและเตรียมเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บตามกฎหมายอย่างเต็มที่
นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ถือเป็นอุบัติเหตุที่รุนแรงที่สุดเท่าที่จังหวัดกาฬสินธุ์ประสบมา เบื้องต้นจะให้ทุกฝ่ายเข้ามาบูรณาการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยจังหวัดกาฬสินธุ์ ให้นำการบริการเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายด้วยการตั้งโต๊ะรับเอกสารที่สำนักงานเทศบาลตำบลห้วยโพธิ์ ให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว ในทุกกรณีต้องได้รับการชดเชยตามกฎหมาย
แต่เหตุเฉพาะหน้าในวันนี้ ทุกฝ่ายที่เป็นเจ้าภาพ โดยเฉพาะสำนักงานเทศบาลตำบลห้วยโพธิ์จะต้องจัดเตรียมหาโลงเย็นไว้บริการให้ครบตามจำนวน ส่วนของญาติผู้เสียหายเชื่อว่าจะยังอยู่ในอาการโศกเศร้า สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์จะต้องนำทีมแพทย์เข้ามาบำบัดฟื้นฟูสภาพจิตใจทั้งญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บที่ต้องเดินทางกลับมารักษาตัวที่จังหวัดกาฬสินธุ์
“แผนการรับมือศพผู้เสียชีวิตขณะนี้ได้รับการประสานจากผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ทีมกู้ภัยจะนำศพมาส่งก่อนจำนวน 17 ศพ เนื่องจากสามารถยืนยันตัวบุคคลได้ เว้นแต่ 1 ศพ ซึ่งเป็นหญิงไม่ทราบชื่อจะต้องส่งพิสูจน์อีกครั้งว่าเป็นใคร ส่วนศพจะนำมารวมไว้เป็น 2 จุด คือ 1. วัดพงพยอม และ 2. วัดป่าพุทธมงคล อำเภอเมืองกาฬสินธุ์” นายไกรสรกล่าว
ด้าน นายรัชโยธิน มีพันลม ผอ.สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยจังหวัดกาฬสินธุ์ หรือ คปภ.กาฬสินธุ์ กล่าวถึงการช่วยเหลือในด้านการคุ้มครองแบ่งออกเป็น 3 ส่วน สำหรับผู้เสียชีวิตที่จะได้รับเงินจาก บริษัท อาคเนย์ประกันภัยรถโดยสาร เพื่อให้จ่ายค่าสินไหมทดแทน แยกเป็น 3 ส่วน คือ 1. รถบัสได้ทำ พ.ร.บ.ประภันภัยชั้น 1 ไว้กรณีเสียชีวิตจ่าย 300,000 บาท 2. เนื่องจากรถคันนี้ทำประกันภัยภาคสมัครใจไว้กับบริษัท อาคเนย์ อีก ก็จ่ายเพิ่มอีก 300,000 บาท
หมายความว่าจะต้องจ่ายเพิ่มให้แก่ผู้เสียชีวิตจากรถคันนี้อีก และ 3. ยังมีสัญญาคุ้มครองแนบท้าย ให้ความคุ้มครองเป็นเงินอีก 50,000 บาท รวมเป็นเงินสินไหมทดแทนจำนวน 650,000 บาท ขณะนี้ก็รอเพียงการรวบรวมเอกสารหลักฐานผู้เสียชีวิต ในส่วนของผู้บาดเจ็บก็จะได้รับการรักษาและชดเชยแตกต่างกันไป
สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตในขณะนี้มีจำนวน 18 ราย คือ 1. นางนภาวรรณ จำปาศรี 2. ด.ญ.พรรณวดี ถิตย์ถนอม 3. นางสมพิศ สุทธิชุม 4. ด.ช.ชนาธิน สุทธิชุม 5. นายประยุง วังพิกุล 6. นางละม่อน อังคะแสน 7. นางสาวเพลินพิศ จำปาศรี 8. นายวิรุฬห์ ตะก้อง 9. นางทองสอน ปรีวิลัย 10. เด็กหญิงปวีณ์สุดา วังพิกุล 11. นายโฆษิต เพชรสังหาร 12. นางบุญชิต สุทธิชุม 13. นางวรรณา จำปาศรี 14. นางสาวจิราภรณ์ ไชยกำปัง 15. นางสายธาร สุทธิชุม 16. นายศรีไพร เผือดผุด 17. นางเรียน ธารวาวแวว 18. หญิงไทยไม่ทราบชื่อ สกุล
เบื้องต้นในช่วงบ่ายวันนี้ศพจำนวน 17 ศพที่มีชื่อจะถูกส่งมายังจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนา ส่วนหญิงไทยไม่ทราบชื่อจะส่งต่อสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าผู้ตายเป็นใครต่อไป
